เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์-ผลการวิจัยล่าสุดโดยมหาวิทยาลัยอินโดนีเซีย (Universitas Indonesia :UI )พบว่า จำนวนผู้สูบบุหรี่ในแดนอิเหนาอาจเพิ่มจำนวนขึ้นอีกเท่าตัวจาก 74 ล้านคนในปีที่แล้ว เป็นกว่า 140 ล้านคนภายในปี ค.ศ.2020
ผลการศึกษาล่าสุดโดยทีมนักวิจัยจากสถาบันประชากรศาสตร์ของยูไอระบุว่า การขยายตัวทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็วของอินโดนีเซียในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ส่งผลให้เกิดการเติบโตในหมู่ชนชั้นกลางในแดนอิเหนาซึ่งมีรายได้และอำนาจซื้อที่เพิ่มสูงขึ้น ทำให้ประชาชนเข้าถึงผลิตภัณฑ์บุหรี่และยาสูบประเภทต่างๆง่ายขึ้น หลังปัจจัยด้านราคาไม่ถือเป็นอุปสรรคในการตัดสินใจซื้อบุหรี่มาสูบอีกต่อไป
ทีมวิจัยของยูไอระบุว่า หากรัฐบาลอินโดนีเซียไม่หันมาสนใจแก้ปัญหาในเรื่องนี้อย่างจริงจัง จะส่งผลให้จำนวนสิงห์อมควันในประเทศอาจเพิ่มสูงขึ้นอีกเท่าตัวจาก 74 ล้านคนในปีที่ผ่านมา เป็น140 ล้านคนในปี 2020 สอดคล้องกับผลการสำรวจก่อนหน้านี้ที่ระบุว่า สัดส่วนของประชากรวัยผู้ใหญ่ในอินโดนีเซียที่ตกเป็นทาสของบุหรี่ได้เพิ่มจาก 27 เปอร์เซ็นต์ในปี 1995 เป็นกว่า 67 เปอร์เซ็นต์ในปี 2011
ที่น่าเป็นห่วงที่สุด คือ การเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็วของ “สตรีที่สูบบุหรี่” ในอินโดนีเซีย ที่เพิ่มจาก1.7 เปอร์เซ็นต์เมื่อปี 1995 เป็นกว่า 4.5 เปอร์เซ็นต์ของประชากรสตรีทั้งประเทศในปี 2011
ทีมวิจัยสรุปว่า การบังคับใช้มาตรการทางกฏหมายที่เข้มงวดเพื่อควบคุมการสูบและการจำหน่ายบุหรี่ รวมถึงการกำหนดราคาขายผลิตภัณฑ์ยาสูบทุกประเภทให้สูงขึ้นจะช่วยลดจำนวนสิงห์อมควันในอินโดนีเซียลงได้
ทั้งนี้ อัตราการเสียชีวิตของผู้สูบบุหรี่ในอินโดนีเซียตามข้อมูลของรัฐบาลจาการ์ตา อยู่ที่ราว 200,000 คนต่อปีซึ่งถือเป็นอัตราการตายจากบุหรี่ที่สูงที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ขณะที่ค่าใช้จ่ายทางการแพทย์ในการบำบัดรักษาผู้ที่เจ็บป่วยเพราะโรคภัยจากการสูบบุหรี่ในอินโดนีเซียแต่ละปี คิดเป็นวงเงินไม่ต่ำกว่า 125.9 ล้านล้านรูเปียห์ (คิดเป็นเงินไทยราว 431,730 ล้านบาท)
