เอเจนซีส์ – เกาหลีเหนือและเกาหลีใต้จัดการประชุมหารือระดับเจ้าหน้าที่เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 2 ปีเมื่อวันอาทิตย์ (9) เพื่อเตรียมการสำหรับการเจรจาระดับรัฐมนตรีซึ่งคาดว่าจะมีขึ้นในกรุงโซลกลางสัปดาห์นี้ ภายหลังช่วงเวลาหลายเดือนที่ผ่านมา ความสัมพันธ์ระหว่างสองเกาหลีตึงเครียดร้อนระอุท่ามกลางการข่มขู่ถึงขั้นเปิดสงครามนิวเคลียร์ของโสมแดง
“บรรยากาศโดยรวมเป็นไปอย่าง … สงบราบรื่น และการหารือเดินหน้าไปโดยที่ไม่มีการโต้เถียงสำคัญใดๆ” คิม ฮยุง-ซุก โฆษกกระทรวงรวมชาติของเกาหลีใต้แถลงภายหลังคณะผู้แทนของทั้ง 2 ฝ่ายเสร็จสิ้นการเจรจาในตอนเช้า
การหารือคราวนี้ จัดขึ้นที่หมู่บ้านปันมุนจอม ในเขตปลอดทหาร ซึ่งเคยใช้เป็นสถานที่ลงนามข้อตกลงหยุดยิงเพื่อยุติสงครามเกาหลีปี 1950-1953 มาแล้ว ได้ดำเนินต่อไปจนเข้าสู่ช่วงที่ 4 ในตอนเย็น โดยที่ทั้ง 2 ฝ่ายพยายามหาความเห็นชอบร่วมกันเกี่ยวกับกรอบโครงด้านเทคนิค เพื่อเตรียมการสำหรับการประชุมระดับรัฐมนตรีที่ตกลงกันในเบื้องต้นว่าจะจัดขึ้นที่กรุงโซลในวันพุธ (12) นี้ อันจะเป็นการหารือในระดับนี้เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 6 ปี
คาดหมายกันว่า ประเด็นสำคัญที่จะหยิบยกขึ้นมาเจรจากันในการประชุมระดับรัฐมนตรี ได้แก่เรื่องการฟื้นฟูความสัมพันธ์กันเชิงพาณิชย์ เป็นต้นว่า การเปิดนิคมอุตสาหกรรมแกซอง ซึ่งตั้งอยู่ในเขตเกาหลีเหนือขึ้นมาใหม่ หลังจากที่โสมแดงสั่งปิดไปในทางพฤตินัยเมื่อตอนต้นเดือนเมษายน ตลอดจนการจัดให้ครอบครัวชาวเกาหลีที่พลัดพรากกันเนื่องจากสงครามได้กลับมาอยู่ร่วมกัน
การหารือในวันอาทิตย์นี้มีขึ้นอย่างปุบปับฉับพลัน หลังจากมีการเปลี่ยนท่าทีแบบเลี้ยวกลับ 180 องศาเมื่อวันพฤหัสบดี (6) ของเกาหลีเหนือ ซึ่งจู่ๆ ก็โยนทิ้งเสียงขู่คำรามชวนท้าตีท้าต่อยไม่หยุดหย่อน และเสนอให้เปิดการสนทนากัน
ฝ่ายเกาหลีใต้ได้ตอบสนองอย่างฉับไวด้วยการเสนอให้เปิดการพบปะกันระดับรัฐมนตรีในกรุงโซล แล้วโสมแดงตอบกลับมาว่าขอจัดการหารือระดับเจ้าหน้าที่กันก่อน
การประชุมระดับเจ้าหน้าที่เกาหลีเหนือ-ใต้ที่ปันมุนจอม มีขึ้นไม่กี่ชั่วโมงหลังจากที่ประธานาธิบดีบารัค โอบามาแห่งสหรัฐฯ และสี จิ้นผิง ผู้นำจีน เห็นพ้องกันระหว่างการประชุมสุดยอดที่แคลิฟอร์เนียว่า เปียงยางจะต้องปลดอาวุธนิวเคลียร์
โธมัส โดนิลอน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของทำเนียบขาว กล่าวว่าผู้นำสองประเทศเไม่ยอมรับเกาหลีเหนือในฐานะประเทศที่มีอาวุธนิวเคลียร์ในครอบครอง ตลอดจนจะร่วมมือทำงานกันให้มากขึ้น เพื่อการปลดอาวุธนิวเคลียร์ของโสมแดง
อันที่จริง บรรยากาศความตึงเครียดระหว่างสองเกาหลีได้บรรเทาเบาบางลงบ้างแล้ว นับแต่ที่เปียงยางส่งเจ้าหน้าที่ทหารระดับสูงไปจีนเดือนที่ผ่านมาเพื่อยืนยันว่า เกาหลีเหนือยินดีดำเนินมาตรการต่างๆ เพื่อส่งเสริมสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาค นอกจากนี้ เกาหลีเหนือยังฟื้นบริการสายด่วนสภากาชาดกับเกาหลีใต้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว จากนั้นก็ฟื้นโทรศัพท์สายด่วนทางการของสองเกาหลีในวันศุกร์ (7) หลังจากตัดขาดไปในเดือนมีนาคม
สำหรับการหารือระหว่างเจ้าหน้าที่เปียงยาง-โซล ครั้งหลังสุดก่อนหน้านี้ บังเกิดขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ 2011 หลังจากเกาหลีเหนือยิงปืนใหญ่ใส่เกาะยอนเปียงในปี 2010 ทำให้นาวิกโยธิน 2 นายและพลเรือน 2 คนของเกาหลีใต้เสียชีวิต ทว่า การหารือครั้งนั้นมีความคืบหน้าน้อยมาก
สำหรับครั้งนี้ พวกนักวิเคราะห์ต่างยังเคลือบแคลงเจตนารมณ์ของเปียงยาง
สตีเฟน แฮกการ์ด ผู้เชี่ยวชาญด้านเกาหลีเหนือของปีเตอร์สัน อินสติติวท์ ฟอร์ อินเตอร์เนชันแนล อิโคโนมิกส์ ในกรุงวอชิงตัน ตีความว่า คำเชิญฟื้นเจรจาที่ดูจริงใจและเอื้อเฟื้อของเกาหลีเหนือ แท้จริงแล้วเป็นการเชิญชวนเกาหลีใต้มาช่วยแก้ปัญหาที่ทางเปียงยางเป็นผู้ก่อขึ้นเอง
เพราะนอกจากจะมีเป้าหมายเพื่อฟื้นการดำเนินการนิคมแกซองแล้ว เกาหลีเหนือยังต้องการฟื้นการจัดทัวร์นำนักท่องเที่ยวโสมขาวเยือนรีสอร์ทบนภูเขากุมกัง ที่ยุติไปหลังจากที่ทหารเกาหลีเหนือยิงนักท่องเที่ยวเกาหลีใต้เสียชีวิตเมื่อเดือนกรกฎาคม 2008 เนื่องจากทั้งแกซองและกุมกังเป็นแหล่งดึงดูดเงินตราต่างประเทศซึ่งแดนโสมแดงขาดแคลนและมีความต้องการมาก
นักวิเคราะห์สำทับว่า โซลเองมีท่าทีระแวดระวัง โดยประธานาธิบดี พัค กึน-ฮเย แสดงความยินดีต่อความคืบหน้านี้ แต่สำทับว่า การหารือสำคัญจะเกิดขึ้นต่อเมื่อเปียงยางแสดงความมุ่งมั่นอย่างเป็นรูปธรรมในการยกเลิกโครงการอาวุธนิวเคลียร์เท่านั้น