“บัน คี มุน” เตือนกลุ่มติดอาวุธอิสลามิสต์ใน “มาลี” ยังเป็นภัยคุกคามต่อแอฟริกาแม้ถูกกวาดล้างหนัก

เอเอฟพี/เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - บัน คี มุน เลขาธิการใหญ่องค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ชาวเกาหลีใต้เผยในวันอาทิตย์ (9) โดยย้ำว่า บรรดากลุ่มติดอาวุธในประเทศมาลีที่มีความเชื่อมโยงกับเครือข่ายก่อการร้ายอัลกออิดะห์ยังคงเป็นภัยคุกคามต่อภูมิภาคแอฟริกาตะวันตก

ความเคลื่อนไหวล่าสุดของเลขาธิการยูเอ็นมีขึ้นขณะที่กองกำลังรักษาสันติภาพของสหประชาชาติมีกำหนดจะเข้าไปรับช่วงต่อจากทหารฝรั่งเศสในการดูแลความสงบเรียบร้อยในประเทศมาลีนับตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคมนี้เป็นต้นไป

ก่อนหน้านี้ กองกำลังของฝรั่งเศสได้ถูกส่งเข้ามายังมาลีตั้งแต่เดือนมกราคมเพื่อขัดขวางการรุกคืบของพวกนักรบอิสลามิสต์ที่ยึดครองพื้นที่ต่างๆ ในมาลี ขณะเดียวกัน การเข้ามาของทหารจากแดนน้ำหอมยังช่วยฟื้นคืนเสถียรภาพให้แก่รัฐบาลของมาลีขึ้นมาอีกครั้ง

บัน คี มุนได้ให้ความเห็นในรายงานภายในฉบับหนึ่งของยูเอ็น โดยระบุว่าปฏิบัติการทางทหารโดยทหารฝรั่งเศสและกองทัพรัฐบาลมาลีทางภาคเหนือของประเทศในช่วงที่ผ่านมาได้ทำให้บรรดากลุ่มติดอาวุธหัวรุนแรงทั้งหลายอ่อนแอลงหลังจากที่พวกหัวรุนแรงเหล่านี้เข้ายึดครองพื้นที่ส่วนใหญ่ในภาคเหนือของมาลีไว้ได้นานกว่า 10 เดือน และประกาศใช้กฎหมายอิสลามอันเข้มงวดในพื้นที่ยึดครอง

อย่างไรก็ดี เลขาธิการสหประชาชาติเตือนว่า บรรดากลุ่มติดอาวุธในมาลียังมีศักยภาพในการก่อเหตุรุนแรงในรูปแบบต่างๆ ได้ จึงยังคงเป็นภัยคุกคามต่อสันติภาพและความสงบสุขของภูมิภาคแอฟริกาตะวันตกโดยรวม ขณะเดียวกัน กลุ่มหัวรุนแรงเหล่านี้ก็ยังคงได้รับการสนับสนุนจากเครือข่ายก่อการร้ายระหว่างประเทศ และยังคงมีโครงสร้างการขยายจำนวนสมาชิกที่มีประสิทธิภาพ

บันยังแสดงความกังวลว่า สมาชิกกลุ่มหัวรุนแรงที่เคยมีที่มั่นสำคัญอยู่ทางตอนเหนือของมาลีอาจกระจายกันไปก่อเหตุโจมตีในประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ไนเจอร์

ทั้งนี้ กองกำลังรักษาสันติภาพของสหประชาชาติที่จะถูกส่งเข้าไปรักษาความสงบเรียบร้อยในมาลีซึ่งจะใช้ชื่อว่า “MINUSMA” จะมีกำลังพลราว 12,600 นาย ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นทหารจากบรรดาประเทศเพื่อนบ้านของมาลีในแอฟริกาตะวันตก ขณะที่ทหารของฝรั่งเศสซึ่งรับผิดชอบดูแลความมั่นคงในมาลีมานานกว่าครึ่งปีจะลดบทบาทของตนลงเหลือเพียงการปฏิบัติภารกิจด้านการต่อต้านการก่อการร้ายในภูมิภาคเท่านั้น