เอเจนซีส์ - ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ป้องต่อข่าวฉาวที่รัฐบาลของเขามีส่วนพัวพันในการล้วงข้อมูลจากชาวอเมริกันทั้งทางโทรศัพท์และทางอินเทอร์เน็ตว่าเป็นสิ่งที่ “ละเมิดสิทธิส่วนตัวน้อยที่สุดแล้ว” พร้อมบอกเป็นนัยให้ประชาชนชาวอเมริกันของเขาต้องอดทนเพื่อความปลอดภัยโดยรวมของประเทศ
โอบามากล่าวว่า เขาได้จำกัดขอบเขตที่หน่วยงานความมั่นคงของสหรัฐฯ หรือ NSA ในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของชาวอเมริกันที่ไม่ต้องขอหมายศาล โดยให้เหตุผลว่าเขาอาจตกเป็นเหยื่อด้วยเข้าสักวันในอนาคต
“การประเมินของผม และทีมงานเป็นส่วนที่จะช่วยป้องกันการก่อการร้าย และข้อมูลที่แสดงหมายเลขโทรศัพท์หรือระยะเวลาการโทร.โดยไม่แสดงชื่อและไม่แสดงเนื้อความ หรือแบบเดียวกันบนอินเทอร์เน็ตเป็น“การละเมิดสิทธิส่วนบุคคลที่น้อยที่สุด” ที่เราทำ”
คำกล่าวของโอบามาออกมาท่ามกลางข่าวฉาวที่เล่นงานเขาและหน่วยงานของรัฐรายวันอย่างต่อเนื่อง โอบามาเน้นว่า “ไม่มีใครฟังพวกคุณคุยกัน” อ้างถึงข่าวที่ NSA ขอให้ศาลอนุญาตให้บริษัทมือถือวารายซันส่งข้อมูลการโทร.ของผู้ใช้อเมริกันนับล้านไปให้ตรวจสอบ และสำหรับการมอนิเตอร์ทางอินเทอร์เน็ต โอบามายืนยันว่า “มันไม่ได้ใช้กับพลเมืองอเมริกัน หรือคนที่อาศัยอยู่ในอเมริกา”
แต่โอบามาเตือนให้ชาวอเมริกันต้องทำใจว่า “ทุกอย่างมันต้องมีได้และมีเสีย คุณไม่สามารถมีความปลอดภัยได้ 100% และในทางกลับกัน มีความเป็นส่วนตัวได้ 100% พร้อมกับ 0% ความไม่สะดวก เราต้องเลือกเพื่ออเมริกา”
ปฏิบัติการปริซึมหรืออื่นๆ ที่เกี่ยวข้องล้วนแต่ช่วยรัฐบาลอเมริกันให้ต่อต้านการก่อการร้าย “คาดการณ์และป้องกันในเหตุการร้ายที่อาจจะเกิดขึ้นได้” และโอบามายังกล่าวต่อไปว่า “ในการที่จะทำให้สมดุล เราได้ตั้งกระบวนการและวิธีการที่จะทำให้พลเมืองอเมริกันรู้สึกอุ่นใจขึ้นกับปฏิบัติการพวกนั้น”
โอบามาเผยต่อว่า สภาคองเกรสได้รับรายงานเกี่ยวกับปฏิบัติการล้วงข้อมูลต่างๆ และชี้ว่า สมาชิกสภาคองเกรสคนที่ไม่เห็นด้วยกับปฏิบัติการพวกนี้สามารถคัดค้านได้ แต่ในความเป็นจริงแล้วสภาคองเกรสบอกชัดเจนครั้งแล้วครั้งเล่าว่าพวกเขารู้สึกอึดอัดไม่รู้จะทำเช่นใดในการตัดสินใจของฝ่ายบริหารในการจัดการข้อมูลเหล่านั้น เพราะรู้ว่าการให้ออกสู่สาธารณะเพื่อการวิพากษ์วิจารณเป็นสิ่งเป็นไปไม่ได้
อย่างไรก็ตาม โอบามารู้สึกเดือดดาลต่อคำกล่าวหาที่อ้างว่าโปรแกรมปฏิบัติการล้วงข้อมูลชาวมะกันขนาดมหึมาในครั้งนี้ เป็นการโยนหินถามทางไปสู่ปฏิบัติการเต็มรูปแบบของรัฐบาลเผด็จการ หรือ “บิ๊กบราเธอร์” ที่คอยจับตาประชาชนตลอดเวลา 24 ชั่วโมง
ในขณะที่การบริหารงานของรัฐบาลภายใต้ประธานาธิบดีโอบามาที่แสดงภาพลักษณ์ในเรื่องที่โปร่งใสในการทำงาน การไม่แทรกแซงสื่อ นำไปสู่ประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ กลับมีเรื่องฉาวที่ถูกเปิดโปงอย่างไม่หยุดมากกว่าทุกรัฐบาลที่ผ่านมารวมกัน เช่น IRS หรือหน่วยงานสรรพากร และเรื่อง NSA ปฏิบัติการจารกรรมข้อมูล หรือการที่นักข่าวคนหนึ่งอ้างว่ารัฐบาลคอยจับตาการทำงานของเขา เป็นต้น