เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - ลัตเวียจะกลายเป็นประเทศสมาชิกใหม่ลำดับที่ 18 ของกลุ่มยูโรโซน หรือกลุ่มประเทศที่ใช้เงินสกุลยูโรเป็นเงินตราสกุลหลักอย่างเป็นทางการในปี 2014 หลังคณะกรรมาธิการยุโรป (European Commission) เห็นชอบให้อดีตดินแดนในสหภาพโซเวียตแห่งนี้มีฐานะเป็นสมาชิกภาพโดยสมบูรณ์
รายงานข่าวล่าสุดระบุว่า คณะกรรมาธิการยุโรปซึ่งเป็นองค์การ “ฝ่ายบริหาร” สูงสุดของสหภาพยุโรป (EU) ยืนยันให้ดินแดนริมฝั่งทะเลบอลติกอย่างลัตเวีย ได้เข้าเป็นสมาชิกใหม่ของยูโรโซนในปีหน้า หลังจากที่ลัตเวียสอบผ่านในเงื่อนไขทางเศรษฐกิจตามเกณฑ์ที่อียูกำหนดไว้ทั้งในเรื่องของการมีอัตราเงินเฟ้อต่ำ และมีสัดส่วนของหนี้สาธารณะต่อจีดีพีต่ำ ซึ่งจะส่งผลให้ลัตเวียเป็นชาติที่ 18 ที่จะเปลี่ยนมาใช้เงินยูโรเป็นเงินตราสกุลหลักนับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ปี 2014
อย่างไรก็ดี การเป็นสมาชิกภาพกลุ่มยูโรโซนของลัตเวีย ยังจำเป็นต้องได้รับความเห็นชอบจากบรรดาผู้นำในอียู รวมถึงรัฐสภายุโรปเสียก่อน
ที่ผ่านมารัฐบาลลัตเวียภายใต้การนำของประธานาธิบดี อันดริส เบอร์ซินส์ ผู้นำวัย 68 ปี ได้แสดงจุดยืนที่ชัดเจนว่าต้องการนำพาประเทศของตนเข้ามาใกล้ชิดกับชาติในยุโรปตะวันตกให้มากขึ้น และลดการพึ่งพาทางด้านเศรษฐกิจต่อรัสเซียลง
โอลลี เรห์น หัวหน้าฝ่ายกิจการทางเศรษฐกิจและการเงินของอียู เผยว่า ความมุ่งมั่นปรารถนาของลัตเวียในอันที่จะเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของเงินสกุลยูโร ถือเป็นสัญญาณแห่งความเชื่อมั่นในระบบเงินตราสกุลเดียว แม้กว่า 3 ปีที่ผ่านมา กลุ่มยูโรโซนจะต้องเผชิญภาวะอึมครึมจาก “เมฆหมอกทางเศรษฐกิจ” จากผลพวงของวิกฤตหนี้สินและปัญหาในการธนาคาร รวมถึงความไม่สมดุลเชิงงบประมาณ
ก่อนหน้านี้เมื่อปี 2008 ลัตเวียเคยต้องขอรับความช่วยเหลือทางการเงินจากอียู มูลค่า 7,500 ล้านยูโร หลังเผชิญวิกฤตทางเศรษฐกิจ แต่ในเวลานี้ รัฐบาลลัตเวียสามารถจ่ายคืนหนี้เงินกู้ทั้งหมดให้กับอียูได้แล้ว แม้ทางธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) จะยังคงออกคำเตือนว่า เศรษฐกิจของลัตเวียยังคงต้องพึ่งพา “เงินฝาก” จากต่างชาติในสัดส่วนที่สูง ซึ่งอาจส่งผลให้สถาบันการเงินภายในประเทศประสบปัญหาเสถียรภาพ หากเกิดการไหลออกของเงินทุนต่างชาติ