เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - รัฐบาลลัตเวียยื่นเรื่องขอสมัครเข้าร่วมเป็นสมาชิกลำดับที่ 18 ของกลุ่มยูโรโซน หรือกลุ่มประเทศที่ใช้เงินยูโรเป็นเงินตราสกุลหลักอย่างเป็นทางการแล้ว ท่ามกลางความหวังว่า การเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของยูโรโซน จะนำความรุ่งเรืองมาสู่เศรษฐกิจของตน แม้ยูโรโซนจะยังหาทางแก้วิกฤตเรื่องหนี้สินของชาติสมาชิกไม่ลุล่วง
รายงานข่าวล่าสุดจากกรุงริกาเมืองหลวงของลัตเวียระบุ รัฐบาลของลัตเวีย ภายใต้การนำของประธานาธิบดีอันดริส เบอร์ซินส์ ได้ยื่นเรื่องขอสมัครเข้าเป็นสมาชิกของกลุ่มยูโรโซนอย่างเป็นทางการแล้ว และคำร้องของรัฐบาลลัตเวียได้ถูกส่งถึงมือเจ้าหน้าที่ระดับสูงในกรุงบรัสเซลส์ของเบลเยียมแล้วเช่นกัน
โดยหากคำร้องของทางการลัตเวียได้รับความเห็นชอบ จะส่งผลให้อดีตดินแดนส่วนหนึ่งของสหภาพโซเวียตซึ่งมีที่ตั้งอยู่แถบทะเลบอลติกแห่งนี้จะกลายเป็นสมาชิกลำดับที่ 18 ของกลุ่มยูโรโซน และจะส่งผลให้เงินยูโรกลายเป็นเงินตราสกุลหลักของลัตเวีย แทนที่เงินสกุลท้องถิ่นอย่าง “แลตส์” ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมปี 2014 เป็นต้นไป
อย่างไรก็ดี ผลสำรวจความคิดเห็นล่าสุดในลัตเวียกลับพบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ของลัตเวีย ไม่เห็นด้วยกับความพยายามของรัฐบาลในการนำประเทศเข้าร่วมกับกลุ่มยูโรโซน แม้ลัตเวียจะเป็นสมาชิกอย่างเป็นทางการของสหภาพยุโรป (อียู) มาตั้งแต่ปี 2004 แล้วก็ตาม ขณะเดียวกันราว 2 ใน 3 ของชาวลัตเวียระบุว่า พวกเขาไม่ต้องการใช้เงินยูโร และต้องการให้รัฐบาลใช้เงินสกุล “แลตส์” ต่อไป
ด้านโอลลี เรห์น ข้าหลวงใหญ่ด้านเศรษฐกิจของอียูซึ่งเป็นชาวฟินแลนด์ ออกมาเปิดเผยว่า การตัดสินใจของรัฐบาลลัตเวียในการขอเข้าร่วมเป็นสมาชิกยูโรโซนในครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าอย่างสำคัญของลัตเวียในการพัฒนาเศรษฐกิจจนฟื้นตัวได้อย่างแข็งแกร่ง จากที่เคยประสบภาวะเศรษฐกิจหดตัวสูงถึง 26.54% เปอร์เซ็นต์ในช่วงที่เกิดวิกฤตการเงินทั่วโลกในปี 2008-2010
ทั้งนี้ เป็นที่คาดกันว่า ที่ประชุมรัฐมนตรีคลังของกลุ่มยูโรโซน (ยูโรกรุ๊ป) จะพิจารณาคำขอของลัตเวียในเดือนกรกฎาคมปีนี้ ขณะที่ผู้แทนของคณะกรรมาธิการยุโรป และธนาคารกลางยุโรป มีกำหนดจะออกรายงานในเดือนมิถุนายนเพื่อสรุปว่า ลัตเวียซึ่งมีประชากรเพียง 2.2 ล้านคน มีความพร้อมในการเข้าร่วมเป็นสมาชิกใหม่ของยูโรโซนมากน้อยเพียงใด