ทีวีเลบานอนเผย รบ.ซีเรียได้รับ “ขีปนาวุธพิสัยไกล” ที่รัสเซียส่งมาช่วย

เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์-สถานีโทรทัศน์อัล มานาร์ ในเลบานอน ซึ่งมีกลุ่มติดอาวุธฮิซบอลเลาะห์เป็นเจ้าของเผยในวันพฤหัสบดี (30) ระบุ ประธานาธิบดีบาชาร์ อัล อัสซาด ผู้นำซีเรียยอมรับว่า ได้รับขีปนาวุธล็อตแรกที่ส่งตรงมาจากรัสเซียแล้ว

รายงานของอัล มานาร์ ยืนยันว่า ผู้นำซีเรีย วัย 47 ซึ่งก้าวขึ้นครองอำนาจต่อจาก “ฮาเฟซ” ผู้เป็นบิดา ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม ปี 2000 ยอมรับเป็นครั้งแรกว่า ได้รับขีปนาวุธพิสัยไกลเอส-300เพื่อการป้องกันการโจมตีทางอากาศแล้ว โดยขีปนาวุธล็อตแรกซึ่งยังไม่มีการเปิดเผยจำนวนที่แท้จริงว่ามีกี่ลูกนี้ถูกส่งตรงมายังซีเรีย โดยฝีมือของรัฐบาลรัสเซียภายใต้การนำของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน หนึ่งในพันธมิตรที่สำคัญที่สุดของระบอบอัสซาด

ขณะที่แหล่งข่าวซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ภายในสถานีโทรทัศน์ดังกล่าวยืนยันว่า การเปิดเผยประเด็นเรื่องขีปนาวุธรัสเซีย เป็นการเปิดเผยจากปากของอัสซาดเอง ระหว่างที่ผู้นำซีเรียให้สัมภาษณ์พิเศษกับทางสถานี

ส่วนวาลิด มูอัลเลม รัฐมนตรีต่างประเทศของซีเรียก็ออกมาเปิดเผยผ่านสื่อของเลบานอน ตั้งแต่คืนวันพุธ (29) ว่า กองทัพรัฐบาลซีเรียได้รับการเสริมเขี้ยวเล็บอย่างสำคัญ และกำลังเป็นฝ่ายได้เปรียบในการทำสงครามกวาดล้างผู้ก่อการร้ายในประเทศ

ความเคลื่อนไหวล่าสุดของทางการซีเรีย มีขึ้นในจังหวะเดียวกับที่รายงานข่าวจากสื่อหลายสำนักในสหรัฐฯ ว่า ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ผู้นำสหรัฐฯเตรียมร้องขอให้กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ (เพนตากอน) จัดทำแผนพิเศษว่าด้วยการกำหนด “เขตห้ามบิน” เหนือน่านฟ้าของซีเรีย โดยโอบามาหวังว่าวิธีการดังกล่าวจะสามารถสกัดกั้นรัสเซียและอิหร่านไม่ให้ช่วยจัดส่งอาวุธยุทโธปกรณ์เพิ่มเติมให้กับฝ่ายรัฐบาลดามัสกัส

ก่อนหน้านี้ รัฐบาลสหรัฐฯเคยมีบทบาทในการกำหนดเขตห้ามบินเหนือน่านฟ้าอิรัก สมัยทำสงครามอ่าวเปอร์เซียกับรัฐบาลซัดดัม ฮุสเซนของอิรักในช่วงทศวรรษ 1990 รวมถึงการกำหนดเขตห้ามบินเหนือน่านฟ้าลิเบียเมื่อปี 2011 เพื่อกำจัดเขี้ยวเล็บกองกำลังทางอากาศของรัฐบาลมูอัมมาร์ กัดดาฟี