บีบีซี - ชายชาวฟลอริดาคนหนึ่งโดนวิสามัญฆาตกรรม หลังมีท่าทีจะก่อเหตุรุนแรงระหว่างถูกสอบสวนฐานต้องสงสัยมีส่วนเกี่ยวข้องกับโศกนาฏกรรมเหตุระเบิดกลางการแข่งขันบอสตันมาราธอนเมื่อกลางเดือนเมษายน
รายงานข่าวระบุว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในตอนเช้าวันพุธ(22) ตามเวลาท้องถิ่น ขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังสอบสวนนายอิบรากิม โทดาเชฟ วัย 27 ปีที่เมืองออร์ลันโด
เบื้องต้นสำนักงานสืบสวนกลางสหรัฐฯ(เอฟบีไอ) ยอมรับว่าเจ้าหน้าที่ของพวกเขาเป็นคนยิงนายโทดาเชฟ แต่ในถ้อยแถลงครั้งล่าสุดไม่ยืนยันว่าใครกันแน่ที่เป็นผู้ปลิดชีพผู้ต้องสงสัยรายนี้ ขณะที่ตำรวจมลรัฐแมตซาชูเชตส์ 2 นาย ก็อยู่ภายในห้องสอบสวนด้วย
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่เอฟบีไอก็ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าวและถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล แต่อาการไม่หนักถึงขั้นเป็นอันตรายต่อชีวิต
สื่อมวลชนสหรัฐฯรายงานว่านายโทดาเชฟ รู้จักและเป็นเพื่อนกับนายทาเมอร์ลัน ซาร์เนฟ ผู้ต้องสงสัยคดีวางระเบิดบอสตัน ด้วยที่ทั้งสองมีกิจกรรมยามว่างเหมือนกัน เช่นการฝึกศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัว นอกจากนี้รายงานข่าวระบุด้วยว่านายทาโดเชฟ ยังมีความเกี่ยวข้องกับสาธารณรัฐเชชเนียของรัสเซียด้วย
นายทาเมอร์ลันถูกตำรวจวิสามัญฆาตกรรมระหว่างหลบหนี ไม่กี่วันหลังจากก่อเหตุโจมตีนองเลือดบริเวณเส้นชัยของการแข่งขันมาราธอนเมื่อวันที่ 15 เมษายน คร่าชีวิตผู้บริสุทธิ์ไป 3 ราย บาดเจ็บมากกว่า 264 คน
ด้าน คูเซน มารามอฟ เพื่อนของนายโทดาเชฟ ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวฟลอริดานิวส์ 13 ว่าเอฟบีไอก็เริ่มสอบสวนและติดตามนายโทดาเชฟ มาตั้งแต่เกิดเหตุระเบิดบอสตันได้ไม่นาน "หนึ่งวันหลังจากเกิดเหตุระเบิดพวกเขาก็เริ่มสอบถามเรา หลังจากพวกเขาพบว่ามือระเบิดเป็นชาวเชเชน พวกเขาก็เริ่มติดตามเราและจับตาดูพวกเรา" พร้อมเผยด้วยว่าเอฟไอบีกดดันจนกระทั่งนายโทดาเชฟ ต้องตัดสินใจยกเลิกตั๋วเครื่องบินที่มุ่งหน้าสู่เชชเนีย ที่เขาซื้อไว้ตั้งแต่ก่อนเกิดเหตุระเบิดที่บอสตัน
ขณะเดียวกันสำนักข่าวเอพีรายงานว่านายโทดาเชฟ เคยถูกตำรวจควบคุมตัวมาแล้วในช่วงต้นเดือน ฐานต้องสงสัยทำร้ายร่างกาย หลังมีเรื่องทะเลาะวิวาทกับผู้อื่นเกี่ยวกับจุดจอดรถภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งของออร์ลันโด โดยฝ่ายตรงข้ามได้รับบาดเจ็บถึงขั้นต้องนำส่งโรงพยาบาล
เวลานี้นายโซการ์ ซาร์เนฟ วัย 19 ปี น้องชายของนายทาเมอร์ลัน อีกหนึ่งผู้ต้องสงสัยวางระเบิดบอสตันมาราธอน ถูกควบคุมตัวในสถานพยาบาลของเรือนจำแห่งหนึ่ง หลังถูกยิงก่อนโดนรวบตัว ขณะที่เขามีสิทธิ์เจอโทษประหารชีวิตหากศาลพบว่ามีความผิดจริง
