เอเอฟพี/บีบีซี - ร่างไร้วิญญาณของนายทาเมอร์ลัน ซาร์เนฟ ผู้ต้องสงสัยวางระเบิดโจมตีบอสตันมาราธอน ถูกนำไปฝังแล้ว ณ สถานที่แห่งหนึ่งที่ไม่เปิดเผย ตำรวจเมืองวอร์เชสเตอร์ ในมลรัฐแมสซาชูเซตส์ ระบุเมื่อวันพฤหัสบดี (9) ยุติข้อถกเถียงที่เริ่มลุกลามบานปลายเกี่ยวกับแนวทางจัดการกับศพของเขา
“ผลจากการที่เราร้องขอความช่วยเหลือจากสาธารณชน บุคคลที่มีความกล้าหาญรายหนึ่งได้กรุณาให้ความช่วยเหลือเท่าที่จำเป็นสำหรับฝังศพผู้ตายอย่างเหมาะสม” ถ้อยแถลงของกรมตำรวจบอสตันระบุบนเว็บไซต์ “ศพของเขาไม่ได้อยู่ในวอร์เชสเตอร์อีกต่อไปและถูกฝังที่สุสานแล้วในตอนนี้”
นายซาร์เนฟ วัย 26 ปี เสียชีวิตระหว่างยิงต่อสู้กับตำรวจ 3 วันหลังจากก่อเหตุวางระเบิดโจมตีบริเวณเส้นชัยของการแข่งขันบอสตันมาราธอนเมื่อวันที่ 15 เมษายน จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 3 รายและบาดเจ็บมากกว่า 260 คน
จากรายงานทางการแพทย์ระบุว่า เขาเสียชีวิตจากพิษกระสุนและอาการบาดเจ็บอวัยวะภายในจากการกระแทก ซึ่งเป็นผลจากการถูกเฉี่ยวชนโดยรถยนต์ที่นายโซการ์ ซาร์เนฟ น้องชายของเขาเป็นคนขับ ขณะที่นายโซการ์ เวลานี้ถูกควบตัวที่สถานพยาบาลในเรือนจำ หลังถูกยิงได้รับบาดเจ็บ
นับตั้งแต่เหตุนองเลือดบอสตันมาราธอน ศพของนายทาเมอร์ลัน อดีตนักมวยสมัครเล่นดาวรุ่งอนาคตไกลก็ถูกทิ้งไว้ที่โรงประกอบพิธีฌาปนกิจศพแห่งหนึ่ง เหตุสุสานต่างๆปฏิเสธรับศพของเขา ส่วนเจ้าหน้าที่เทศบาลนครในพื้นที่บอสตันก็บอกปัดที่จะเข้าแทรกแซง ขณะเดียวกันก็มีผู้ประท้วงปิดล้อมโรงประกอบพิธีฌาปนกิจศพดังกล่าว เพื่อเรียกร้องให้ส่งศพของผู้ต้องสงสัยกลับไปยังสาธารณรัฐดาเกสถานของรัสเซีย อันเป็นบ้านเกิดเมืองนอนของเขาเอง
อย่างไรก็ตาม ลุงของเขาที่พักอาศัยอยู่ในสหรัฐฯ ยืนกรานว่าศพของนายทาเมอร์ลันควรได้รับการฝังในบอสตัน ซึ่งเวลานี้คือบ้านที่แท้จริงของเขา จนนำมาซึ่งข้อถกเถียงที่ไร้ทางออก
เมื่อวันพุธ (8) แกรี เกมม์ ผู้บังคับการตำรวจวอร์เชสเตอร์ เสนอทางออกโดยพูดว่า “เราไม่ใช่พวกไร้อารยธรรม เราจะฝังศพคนตาย” อย่างไรก็ตาม นายโธมัส เมนิโน นายกเทศมนตรีบอสตัน ระบุไม่ต้องการให้ฝังศพนายทาเมอร์ลันในเมืองของเขา โดยอ้างความกังวลต่อเหตุยุ่งเหยิง การประท้วงและความแออัดยัดเยียดของเหล่าสื่อมวลชนที่จะมาทำข่าวการฝังศพ เช่นเดียวกับฝ่ายบริหารเมืองแคมบริดจ์ เมืองสุดท้ายที่เขาใช้ชีวิตอยู่ ที่ก็ปฏิเสธโดยให้เหตุผลคล้ายๆกัน
นายโรเบิร์ต ฮีลีย์ ตำแหน่งผู้บริหารของเมืองเคมบริดจ์ กล่าวว่า จะไม่อนุญาตให้นำศพของนายทาเมอร์ลัน ซาร์นาเยฟ นำศพมาฝังไว้ที่เมืองนี้ เพราะชีวิตที่เคยอยู่อย่างเงียบสงบของชาวเมือง กลับต้องมาได้รับผลกระทบอย่างมากจากเหตุการณ์วุ่นวายดังกล่าวแล้วแพร่ต่อไปอย่างรวดเร็ว และตามกฎหมายของรัฐแล้ว เขาในฐานะผู้บริหารมีหน้าที่ดูแลรักษาความสงบในเมือง ซึ่งเขาก็พิจารณาแล้วว่า เพื่อความสงบสุขของเมืองนี้จึงไม่สมควรที่จะให้นำศพของนายทาเมอร์ลัน ซาร์นาเยฟ ฝังอยู่ที่เมืองนี้
ในถ้อยแถลงเมื่อวันพฤหัสบดี (9) ตำรวจวอร์เชสเตอร์ไม่ได้ระบุตัวตนของบุคคลที่ช่วยคลี่คลายทางตันดังกล่าวและปฏิเสธที่จะเผยถึงตำแหน่งของสุสานแห่งนั้น “ผู้บัญชาการอยากขอบคุณชุมชนที่มอบสถานที่ฝังศพ และ ณ ตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลรายละเอียดใดๆ เพิ่มเติม” กรมตำรวจบอสตันบอก
ทีมสืบสวนเชื่อว่า สองพี่น้องตระกูลซาร์เนฟมีแรงจูงใจในการก่อเหตุวางระเบิดบอสตันมาราธอนจากแนวคิดอิสลามหัวรุนแรง โดยครอบครัวของพวกเขามีถิ่นฐานจากสาธารณรัฐเชเชน ดินแดนที่พลเรือนหลายหมื่นคนต้องมาจบชีวิตลงระหว่างช่วงเวลา 2 ทศวรรษหลังสุด ที่ทางรัสเซียพยายามปราบปรามกองกำลังกบฏติดอาวุธ อย่างไรก็ตาม ไม่มีหลักฐานชัดเจนที่บ่งชี้ว่าปฏิบัติการโจมตีของสองพี่น้องเป็นการสมคบคิดหรือร่วมมือกับกลุ่มนักรบจากต่างแดน
ทั้งนี้ในส่วนของนายโซการ์ วัย 19 ปี ได้ถูกตั้งข้อหาใช้อาวุธอานุภาพทำลายล้างสังหารผู้คนและหากถูกพบว่ามีความผิดจริง โทษสูงสุดคือประหารชีวิต