เอเอฟพี - ตั้งข้อหา โซการ์ ซาร์เนฟ ผู้ต้องสงสัยวางระเบิดถล่มบอสตันมาราธอน ใช้อาวุธอานุภาพทำลายล้างสังหารผู้คนและมีโทษถึงขั้นประหารชีวิตหากถูกพบว่ามีความผิดจริง จากการเปิดเผยของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ เมื่อวันจันทร์ (22) ขณะที่อีกด้านหนึ่งชาวเมืองก็ร่วมกันสงบนิ่งไว้อาลัยแก่เหยื่อของโศกนาฏกรรมดังกล่าว
นอกจากนี้ ในถ้อยแถลงของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ระบุด้วยว่า นายโซการ์ วัย 19 ปี ซึ่งเวลานี้นอนอาการสาหัสอยู่ในโรงพยาบาล ยังโดนข้อหาประสงค์ทำลายล้างทรัพย์สินด้วยวิธีระเบิดนองลือดอีกหนึ่งกระทง และการพิจารณาคดีนัดแรกจะมีขึ้นในวันที่ 30 พฤษภาคมนี้
ทั้งนี้ หากนายโซการ์ พลเมืองสหรัฐฯ เชื้อสายเชเชน ถูกพบว่ามีความผิดจริง เขาอาจโดนลงโทษจำคุกตลอดชีวิต หรือไม่ก็ต้องชดใช้ด้วยความผิดด้วยความตาย หลังเหตุระเบิดกลางการแข่งขันบอสตันมาราธอนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ได้คร่าชีวิตผู้บริสุทธิ์ไป 3 รายและบาดเจ็บ 108 คน
"เป็นอีกครั้งที่เราแสดงให้เห็นว่าใครก็ตามที่เล็งเป้าหมายโจมตีอเมริกันชนผู้บริสุทธิ์และพยายามก่อการร้ายต่อเมืองของเรา จะไม่มีวันเล็ดรอดไปจากกระบวนการยุติธรรมได้" เอริค โฮลเดอร์ อัยการสูงสุดสหรัฐฯ กล่าว
ถ้อยแถลงตั้งข้อหานายโซการ์ ซึ่งถูกจับเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว มีออกมาหลังจากนายเจย์ คาร์นีย์ โฆษกทำเนียบขาวยืนยันจะไม่ถือว่าผู้ต้องสงสัยรายนี้เป็นนักรบฝ่ายศัตรู แม้มีเสียงเรียกร้องจากสมาชิกรีพับลิกันบางส่วนบอกว่านายซาร์เนฟควรถูกจัดอยู่ในระดับเดียวกับเหล่านักโทษสงครามก่อการร้าย (War on Terror) ที่ถูกคุมขังในคุกกวนตานาโม
นายโซการ์ ถูกรวบในฏิบัติการปิดเมืองบอสตันและแถบชานเมืองตามล่าขนานใหญ่เมื่อวันศุกร์ (19) ส่วนนายทาเมอร์ลัน วัย 26 ปี พี่ชายของเขาและผู้สมรู้ร่วมคิด เสียชีวิตท่ามกลางเหตุปะทะกับตำรวจในค่ำคืนนั้น
ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่า นายโซการ์ได้รับบาดเจ็บสาหัสบริเวณคอจากการปะทะกับตำรวจหรือเป็นความพยายามฆ่าตัวตายหนีความผิดของเขาเอง แต่ ณ ตอนนี้เขาอาการทรงตัวและสามารถสื่อสารกับเจ้าหน้าที่ผ่านการเขียน แม้ยังพูดไม่ได้ก็ตาม
ขณะที่เจ้าหน้าที่หน่วยงานต่อต้านก่อการร้ายกำลังรอสอบปากคำผู้ต้องสงสัยที่ศูนย์การแพทย์เบธ อิสราเอล ดีโคเนส เพื่อหวังทราบรายละเอียดเพิ่มเติมจากเจ้าตัว อีกด้านหนึ่งประชาชนชาวบอสตัน ก็พยายามทิ้งบาดแผลแห่งความทรงจำอันเลวร้ายจากโศกนาฏกรรมอันน่าสยดสยองไว้เบื้องหลัง
ในเวลา 14.50 น.(ตรงกับเมืองไทย 01.50 น.) เสียงระฆังตามโบสถ์ต่างๆทั่วมลรัฐแมสซาชูเชตส์ ดังสนั่นหวั่นไหวเพื่อเป็นเกียรติแก่เหยื่อผู้เสียชีวิต 3 คนจากเหตุระเบิดและนายตำรวจคนหนึ่งที่ต้องมาจบชีวิตลงระหว่างปะทะกับสองพี่น้องตระกูลซาร์เนฟ ทั้งนี้รายงานข่าวระบุว่าประธานาธิบดีบารัค โอบามา ก็ร่วมสงบนิ่งไว้อาลัยแก่ผู้เสียชีวิต เช่นเดียวกับเทรเดอร์ในตลาดหุ้นสหรัฐฯ
นอกจากนี้แล้วยังพบเห็นประชาชนหลายร้อยคนรวมตัวกันบริเวณรอบนอกรั้วกั้นด้านความปลอดภัยของจุดเกิดเหตุตรงเส้นชัยของศึกบอสตันมาราธอน เพื่อไว้อาลัยและแสดงความเคารพต่อผู้เสียชีวิต รวมถึงสวดมนต์ภาวนาแก่ผู้ได้รับบาดเจ็บ โดยบางส่วนได้วางดอกไม้ผูกโบว์สีขาวตรงอนุสรณ์ที่ทำขึ้นชั่วคราวบนหัวมุมของถนนบอยล์สตันและถนนเบิร์คเลย์ด้วย
บริเวณที่เกิดเหตุ พื้นที่โดยรอบยังคงถูกปิดกั้นเพื่อการสืบสวน ร้านค้าและร้านอาหารยังต้องปิดบริการ ขณะที่ชาวบ้านที่พักอาศัยอยู่ในเขตปิดล้อมก็จำเป็นต้องไปหาที่พักอาศัยชั่วคราวอยู่กันไปก่อน
เจ้าหน้าที่สืบสวนหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้คำตอบจากนายโซการ์ เกี่ยวกับแรงจูงใจในการก่อเหตุ รวมถึงมีคนอื่นๆ ร่วมมือในเหตุโจมตีอีกหรือไม่ หลังจากเมื่อวันอาทิตย์ (21) เอ็ด เดวิส ผู้บัญชาการตำรวจเมืองบอสตัน ระบุพบวัตถุระเบิดทำเองเติมอีกจำนวนหนึ่งและมีหลักฐานปรากฏชัดว่าสองพี่น้องกำลังวางแผนโจมตีที่อื่นๆอีก
ผู้บัญชาการตำรวจเมืองบอสตัน เผยต่อเจ้าหน้าที่กำลังพยายามแกะรอยว่าผู้ต้องสงสัยได้อาวุธปืนและระเบิดเหล่านั้นมาอย่างไรและจากที่ไหน หลังพบปืน M-4 ภายในเรือที่นายโซการ์ ใช้ซุกซ่อนตัวก่อนถูกจับได้ ขณะเดียวกันยังพบอีกว่าสองพี่น้องใช้ปืนสั้น 2 กระบอกและปืนบีบี ยิงปะทะกับตำรวจในย่านวอเตอร์ทาวน์ของบอสตัน
ในขณะที่แรงจูงใจของการก่อเหตุยังไม่เป็นที่ชัดเจน เวลานี้เจ้าหน้าที่สืบสวนกำลังตรวจสอบความเป็นไปได้ที่นายทาเมอร์ลัน อาจถูกปลูกฝังความสุดโต่งหรือได้รับการฝึกฝนก่อเหตุร้าย ช่วง 6 เดือนระหว่างที่เขาเดินทางกลับภูมิลำเนาในดาเกสถานและเชชเนีย เมื่อปี 2012 ดินแดนอันเป็นป้อมปราการของกลุ่มอิสลามิสต์และนักรบแบ่งแยกดินแดน แต่เหล่ากบฏในดาเกสถาน ออกมาปฏิเสธแล้วว่าไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆ กับเหตุระเบิดในบอสตัน