รอยเตอร์/เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - ภูเขาไฟพาฟลอฟในมลรัฐอะแลสกาของสหรัฐฯ ซึ่งเกิดการปะทุรอบใหม่ตั้งแต่เมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว ยังคงปล่อยเถ้าถ่านพวยพุ่งออกมาอย่างต่อเนื่องเป็นความสูงกว่า 6,700 เมตร จนทางการต้องสั่งระงับเที่ยวบินในพื้นที่เมื่อวันจันทร์ (20)
รายงานข่าวระบุว่า ภูเขาไฟพาฟลอฟความสูง 2,518 เมตร ซึ่งเกิดการปะทุอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปลายสัปดาห์ที่แล้ว ยังคงปล่อยเถ้าถ่านออกมาจากต่อเนื่อง จนหน่วยงานความปลอดภัยทางการบินในมลรัฐอะแลสกา ต้องออกประกาศระงับเที่ยวบินพาณิชย์หลายเที่ยวบิน ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย แม้จะมีการยืนยันว่าเถ้าถ่านที่พวยพุ่งออกมาจากปากปล่องภูเขาไฟพาฟลอฟจะไม่ส่งผลกระทบต่อเครื่องบินที่ทำการบินในระดับความสูง ตั้งแต่ 30,000 ฟุต หรือ 9,150 เมตรขึ้นไป
หนึ่งในสายการบินที่ได้รับผลกระทบ คือ “เพนแอร์” ซึ่งมีฐานอยู่ที่เมืองแองเคอเรจ และเป็นสายการบินหลักที่ให้บริการเส้นทางแถบตะวันตกเฉียงใต้ของมลรัฐอะแลสกา โดยมีรายงานว่า ทางสายการบินต้องยกเลิกทำการบินมากกว่า 10 เที่ยวบินในอย่างน้อย 4 เส้นทางแบบไม่มีกำหนด จนกว่าจะมีการยืนยันจากทางการ ว่าสถานการณ์การปะทุของภูเขาไฟพาฟลอฟไม่ส่งผลกระทบต่อการบินอีกต่อไป
นอกจากผลกระทบด้านการบินแล้ว ยังมีรายงานว่า เถ้าถ่านจากการปะทุของภูเขาไฟพาฟลอฟยังส่งผลกระทบต่อผู้คนในเมืองแซนด์พอยท์ เมืองชาวประมงที่มีประชากรอาศัยอยู่ราว 1,000 คน โดยเถ้าถ่านภูเขาไฟซึ่งมีความเข้มข้นสูงและถูกกระแสลมพัดเข้ามาปกคลุมเมือง ทำให้ชาวเมืองหายใจได้อย่างยากลำบาก
ทั้งนี้ ภูเขาไฟพาฟลอฟซึ่งอยู่ห่างจากเมืองแองเคอเรจไปทางตะวันตกเฉียงใต้ราว 950 กิโลเมตร เกิดการระเบิดครั้งใหญ่หนล่าสุดเมื่อปี 2007 และเคยเกิดการปะทุมาแล้วไม่น้อยกว่า 24 ครั้ง ตั้งแต่ปี 1901 เป็นต้นมา