เอเจนซีส์ - หมอกควันและเถ้าถ่านจากภูเขาไฟแพฟลอฟ (Pavlof) ในมลรัฐอะแลสกาของสหรัฐฯ ลอยสูงขึ้นสู่ท้องฟ้าราว 15,000 ฟุต (4.5 กิโลเมตร) เมื่อวานนี้(17) และสามารถมองเห็นได้จากที่ไกลๆหากสภาพอากาศเอื้ออำนวย
สำนักงานควบคุมการบินในท้องถิ่น ระบุว่า หมอกควันจากภูเขาไฟลูกนี้เริ่มส่งผลกระทบต่อเครื่องบินขนาดเล็ก แต่ยังไม่เป็นอันตรายต่อเครื่องบินโดยสารขนาดใหญ่ซึ่งมีเพดานบินสูงขึ้นไปอีกหลายพันฟุต
ภูเขาไฟแพฟลอฟซึ่งอยู่ห่างจากเมืองแองเคอเรจไปทางตะวันตกเฉียงใต้ราว 1,000 กิโลเมตร เริ่มปะทุขึ้นตั้งแต่วันจันทร์(13) และมีผู้บันทึกภาพลาวาที่ถูกปลดปล่อยออกมาจากปากปล่องภูเขาไฟเอาไว้ได้
ศูนย์สังเกตการณ์ภูเขาไฟแห่งมลรัฐอะแลสกาแถลงว่า บางครั้งเถ้าถ่าน, ไอน้ำ และก๊าซจากภูเขาไฟอาจลอยสูงถึง 20,000 ฟุต (ราว 6 กิโลเมตร) และสามารถมองเห็นได้ชัดเจนจากชุมชนใกล้เคียง เช่น โคลด์เบย์ และ แซนด์พอยท์
ชาวบ้านในเมืองโคลด์เบย์ซึ่งห่างจากภูเขาไฟราว 64 กิโลเมตร ต่างพากันวิตกว่าเถ้าถ่านจากภูเขาไฟแพฟลอฟจะสร้างความเสียหายต่อเครื่องกำเนิดไฟฟ้า แต่จนถึงขณะนี้พบว่ากระแสลมได้หอบเอาเถ้าถ่านภูเขาไฟไปอีกทิศทางหนึ่ง
นักวิทยาศาสตร์ชี้ว่า ภูเขาไฟแพฟลอฟอาจพ่นลาวาและก๊าซสูงขึ้นไปในอากาศหลายพันฟุต แต่เถ้าถ่านของภูเขาไฟลูกนี้มีความหนาแน่นน้อยกว่าภูเขาไฟลูกอื่นๆ ซึ่งเป็นอันตรายต่อการบินมากกว่า
แพฟลอฟ เป็นภูเขาไฟลูกหนึ่งที่ยังมีพลังในแนวภูเขาไฟ Aleutian Arc และมีประวัติการระเบิดมาแล้วเกือบ 40 ครั้ง ครั้งสุดท้ายเมื่อปี 2007 ซึ่งเป็นการปะทุต่อเนื่องนานถึง 29 วัน ตามข้อมูลของศูนย์สังเกตการณ์ภูเขาไฟอะแลสกา