เอเอฟพี - ภูเขาไฟมายอนในฟิลิปปินส์เกิดการปะทุตัวอย่างกะทันหันเมื่อช่วงเช้าวันอังคาร (7) ส่งผลให้นักท่องเที่ยวชาวเยอรมัน 3 ราย และมัคคุเทศก์ชาวฟิลิปปินส์อีก 1 คนซึ่งกำลังปีนป่ายอยู่บนลาดเขา ถูกหินร้อนจัดกระเด็นมาทับเสียชีวิต และยังมีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 7 คน ในจำนวนนี้เป็นคนไทย 3 ราย
พวกเจ้าหน้าที่ฟิลิปปินส์บอกว่า ในขณะที่มันปะทุขึ้นมาแบบไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้าคราวนี้ มีผู้ที่กำลังปีนภูเขาไฟมายอนอันมีทิวทัศน์สวยงามมากอยู่ 20 คน โดยเป็นชาวต่างชาติอย่างน้อย 9 คน และจากสภาพอากาศที่เลวร้ายหมายความว่าพวกเขาเหล่านี้บางคนต้องพักค้างคืนอยู่บนลาดเขา
ขณะที่ มาร์ตี คัลเลจา ผู้ดำเนินการบริษัททัวร์ท้องถิ่น อ้างคำบอกเล่าของนักท่องเที่ยวหญิงชาวออสเตรียที่รอดชีวิตมาได้ ซึ่งกล่าวว่า “หินร้อนๆ ร่วงลงมาจากฟ้าราวกับฝนตก” และ “หินที่หล่นลงมาทับพวกเขามีขนาดใหญ่พอๆ กับโต๊ะกินข้าวทีเดียว”
คัลเลจาบอกว่า มีมัคคุเทศก์ท้องถิ่น 3 คนจากบริษัทของเขา พานักท่องเที่ยวต่างชาติ 5 คนขึ้นไปบนภูเขาไฟมายอนเพียงไม่กี่ชั่วโมงก่อนจะเกิดการปะทุ ซึ่งทำให้มีกลุ่มควันหนาทึบพวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าเป็นระยะทางราว 500 เมตร
เขาเล่าต่อไปว่า ชาวเยอรมันในวัย 30 เศษจำนวน 3 คน เป็นชาย 2 คนและหญิงอีกคนหนึ่ง พร้อมกับมัคคุเทศก์ชาวตากาล็อกคนหนึ่งในกลุ่มของเขา ถูกหินร้อนๆ หล่นทับเสียชีวิต แล้วยังมีหญิงอายุ 22 ปีชาวสเปนผู้หนึ่งได้รับบาดเจ็บสาหัส “ถึงขั้นคุกคามชีวิต” ตลอดจนหญิงชาวออสเตรียอีกคนหนึ่งซึ่งมีแผลถลอกปอกเปิกตามร่างกายเล็กน้อย
ทางด้าน เรนาโต บาทัลเลอร์ โฆษกตำรวจประจำภูมิภาคดังกล่าว ออกมายืนยันว่าผู้เสียชีวิตมี 4 ราย และผู้บาดเจ็บอีก 7 คน ซึ่งในจำนวนนี้มีชาวไทยรวมอยู่ด้วย 4 คน
ส่วนผู้ว่าการจังหวัด โจอี้ ซัลเซดา ระบุว่า ขณะนี้ถึงแม้การปะทุของภูเขาไฟได้สงบลงแล้ว แต่เฮลิคอปเตอร์กู้ภัยก็ยังไม่สามารถลงจอดได้ เนื่องจากฝนตกหนัก เวลานี้จึงสามารถช่วยผู้รอดชีวิตออกมาจากภูเขาได้เพียง 4 ราย ขณะที่หน่วยกู้ภัยถูกบังคับให้ต้องใช้วิธีปีนเขาเพื่อไปให้ถึงตัวผู้บาดเจ็บ
คัลเลจาบอกว่า นักท่องเที่ยวต่างชาติกลุ่มนี้จ่ายเงินคนละประมาณ 100 ดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับการขึ้นไปผจญภัยเป็นเวลา 1 คืนบนภูเขาไฟสูง 2,460 เมตรลูกนี้ ซึ่งมีชื่อเสียงโด่งดังด้วยรูปทรงกรวยเกือบสมมาตร ทว่ามีประวัติศาสตร์อันยาวนานว่าเกิดการปะทุซึ่งทำให้มีคนเสียชีวิตมาแล้วหลายครั้ง
พื้นที่ในรัศมี 6 กิโลเมตรรอบภูเขาไฟควรถูกประกาศเป็น “เขตอันตรายถาวร” แต่รัฐบาลท้องถิ่นยังคงอนุญาตให้นักท่องเที่ยวปีนขึ้นภูเขาไฟมายอนได้ หากไม่มีสัญญาณว่าจะเกิดการปะทุ
คัลเลจาเผยว่า ในช่วงเดือนพฤษภาคม-สิงหาคมของทุกปี จะมีนักปีนเขามาเยือนภูเขาไฟมายอนราว 300-1,000 คน
เรนาโต โซลิดัม หัวหน้าคณะผู้เชี่ยวชาญด้านแผ่นดินไหวฟิลิปปินส์ ยืนยันว่า พลเมืองที่อาศัยอยู่รอบภูเขาไฟมายอนไม่มีความจำเป็นต้องอพยพ เนื่องจากครั้งนี้เป็น “การปะทุที่เกิดจากแรงดันไอน้ำเพียงเล็กน้อย” หลังจากที่ชั้นเถ้าถ่านบริเวณปากปล่องภูเขาไฟสัมผัสกับน้ำฝน และเขาไม่คิดว่าจะมีการปะทุซ้ำขึ้นมาอีกในช่วงใกล้ๆ นี้
“ยังไม่มีการเคลื่อนไหวของแม็กมา สิ่งที่เกิดขึ้นวันนี้เป็นเพียงการปะทุที่เกิดจากแรงดันไอน้ำเท่านั้น” โซลิดัม แถลงต่อสื่อมวลชนที่กรุงมะนิลา
ชาวบ้านที่อาศัยอยู่รอบๆภูเขาไฟอันมีชื่อเสียงลูกนี้เล่าว่า พวกเขารู้สึกตกใจที่ภูเขาไฟเกิดปะทุขึ้นอย่างฉับพลัน ขณะที่คนส่วนใหญ่กำลังรับประทานอาหารเช้า
“มันเกิดขึ้นกะทันหันมากจนพวกเราขวัญเสีย... พอหันไปมองก็เห็นเถ้าถ่านพุ่งเป็นลำขึ้นไปบนฟ้า” จุน มารานา คนขับรถบัสและคุณพ่อลูกสองวัย 46 ปี ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับเอเอฟพี
ภูเขาไฟมายอนซึ่งห่างจากกรุงมะนิลาไปทางตะวันออกเฉียงใต้ราว 330 กิโลเมตร เคยปะทุมาแล้ว 48 ครั้ง เท่าที่มีการบันทึกไว้
พายุไต้ฝุ่นที่พัดผ่านฟิลิปปินส์เมื่อเดือนธันวาคม ปี 2006 ทำให้โคลนภูเขาไฟมายอนไหลลงมาตามลาดเขาสู่ชุมชน คร่าชีวิตชาวบ้านไปถึง 1,000 คน ต่อมาในเดือนธันวาคม ปี 2009 ชาวบ้านหลายพันคนต้องเก็บข้าวของหนีตายกันจ้าละหวั่นเมื่อภูเขาไฟมายอนพ่นเถ้าถ่านและลาวาออกมา