เอเอฟพี - หมู่เกาะพิพาทซึ่งเป็นต้นตอความขัดแย้งระหว่างจีนและญี่ปุ่น อยู่ในข่ายได้รับความคุ้มกันตามข้อตกลงทางทหารที่ญี่ปุ่นทำร่วมกับสหรัฐฯ ชัค เฮเกล รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ แถลงวานนี้ (29)
ในการแถลงข่าวร่วมกับรัฐมนตรีกลาโหม อิตสุโนริ โอโนเดระ แห่งญี่ปุ่น เฮเกลกล่าวชัดเจนว่า “สหรัฐฯ ไม่ขอแสดงจุดยืนเกี่ยวกับปัญหาอธิปไตยของหมู่เกาะเซ็งกากุ แต่เรารับทราบว่าหมู่เกาะนี้อยู่ใต้การบริหารจัดการของรัฐบาลญี่ปุ่น ดังนั้นจึงอยู่ในข่ายได้รับการคุ้มกันตามพันธกรณีด้านความมั่นคงที่เรามีต่อญี่ปุ่นด้วย”
ถ้อยแถลงของเฮเกลครั้งนี้ มีขึ้นในขณะที่โตเกียวและปักกิ่งกำลังหมางเมินจากปัญหาอธิปไตยเหนือหมู่เกาะร้างกลางทะเลจีนตะวันออก ซึ่งชาวญี่ปุ่นรู้จักในนาม “เซ็งกากุ” ขณะที่จีนก็มีชื่อเรียกในภาษาของพวกเขาเองว่า “เตี้ยวอี๋ว์”
เมื่อวันที่ 23 เมษายน นายกรัฐมนตรีชินโสะ อาเบะ ประกาศจะ “ใช้กำลังขับไล่” พลเมืองจีนที่เหยียบย่างขึ้นไปบนหมู่เกาะเซ็งกากุ หลังปรากฏว่ามีกองเรือจีนรุกล้ำเข้าไปในเขตน่านน้ำพิพาท และเป็นการบุกรุกครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่โตเกียวทุ่มเงินซื้อหมู่เกาะบางส่วนเป็นสมบัติของรัฐ
เฮเกลชี้ว่า ข้อพิพาทหมู่เกาะเซ็งกากุถือเป็นปัญหาความมั่นคงที่สำคัญระดับภูมิภาค และควร “แก้ไขด้วยสันติวิธี โดยความร่วมมือของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง”
รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ ยังเอ่ยเป็นนัยๆ ถึงกองเรือจีนที่รุกล้ำเข้าใกล้หมู่เกาะเซ็งกากุว่า วอชิงตัน “คัดค้านการกระทำยั่วยุแต่ฝ่ายเดียวทุกรูปแบบ ซึ่งเป็นการบั่นทอนอำนาจปกครองของญี่ปุ่น”
“การกระทำใดก็ตามที่ส่งผลให้เกิดความตึงเครียด หรือนำไปสู่ความเข้าใจผิด ย่อมกระทบต่อเสถียรภาพโดยรวมของทั้งภูมิภาค”
ด้านรัฐมนตรีกลาโหมญี่ปุ่นระบุว่า ตนได้ “อธิบายจุดยืนของญี่ปุ่นให้สหรัฐฯทราบแล้วว่า หมู่เกาะเซ็งกากุเป็นดินแดนของญี่ปุ่นโดยแท้ ไม่ว่าจะด้วยความจริงตามประวัติศาสตร์หรือกฎหมายระหว่างประเทศก็ตาม และโตเกียวก็มีเจตนารมณ์ที่จะปกป้องดินแดน, น่านน้ำ และน่านฟ้าของหมู่เกาะนั้นไว้”
เฮเกลยังเอ่ยถึงความคืบหน้าในการติดตั้งระบบเรดาร์ TPY-2 ตัวที่สองในญี่ปุ่น พร้อมยืนยันว่าสหรัฐฯ จะส่งฝูงบิน เอ็มวี-22 ออสเปรย์ เข้ามาประจำการในญี่ปุ่นภายในฤดูร้อนปีนี้