เอเจนซีส์ - มะกันเปิดสภาซักเจ้าหน้าที่ความมั่นคงระดับสูง ประมาทละเลยสัญญาณเตือนภัยเมื่อ 2 ปีที่แล้ว จึงเปิดโอกาสให้สองพี่น้องจากเชชเนียก่อเหตุระเบิดสยองบอสตัน มาราธอนหรือไม่ ขณะที่ทางด้านอัยการได้ตั้งข้อหามือระเบิดรายเดียวที่เหลืออยู่อย่างเป็นทางการแล้ว โดยโทษสูงสุดที่เขาอาจจะได้รับคือประหารชีวิต
เมื่อวันจันทร์ (22) อัยการสหรัฐฯ ได้ตั้งข้อหาโซการ์ ซาร์เนฟ วัย 19 ปี ว่าใช้อาวุธทำลายล้างสูง และทำลายทรัพย์สินอย่างประสงค์ร้ายซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต ความผิดตามข้อหาเหล่านี้มีระวางโทษสูงสุดถึงขั้นประหารชีวิต
อัยการแจงว่า โซการ์ ชาวเชชเนียที่ได้สัญชาติอเมริกัน และพี่ชาย ทาเมอร์ลัน ซาร์เนฟ วัย 26 ปี ที่ได้รับสิทธิพำนักในสหรัฐฯอย่างถูกกฎหมาย ถือเป้ที่บรรจุระเบิดที่ทำจากหม้อตุ๋นความดันไอน้ำ ไปวางไว้ใกล้จุดเข้าเส้นชัยในการแข่งขันบอสตัน มาราธอนเมื่อวันที่ 15 ที่ผ่านมา และฤทธิ์ระเบิดเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย และบาดเจ็บอีกกว่า 200 คน
ในบันทึกคำให้การของสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐฯ (เอฟบีไอ) ซึ่งฝ่ายอัยการยื่นประกอบกับการตั้งข้อกล่าวหา ได้บรรยายภาพเหตุการณ์จากกล้องรักษาความปลอดภัยที่เผยให้เห็นว่า โซการ์เป็นผู้วางระเบิดลูกที่ 2 หลังจากเดินออกจากที่เกิดเหตุอย่างใจเย็นเมื่อระเบิดลูกแรกทำงานแล้ว
ทาเมอร์ลันนั้นถูกตำรวจยิงเสียชีวิตช่วงเช้าวันศุกร์ (19) ส่วนโซการ์ยังหนีรอด แต่ถูกจับได้ในคืนนั้นภายหลังเจ้าหน้าที่ทุ่มเทกำลังใช้ปฏิบัติการปิดเมืองบอสตันไล่ล่า
บันทึกคำให้การระบุว่า ในการตอบข้อซักถามของเจ้าหน้าที่สอบสวนจากห้องพักในโรงพยาบาล โซการ์ใช้วิธีพยักหน้าหรือส่ายหน้าเท่านั้น เขายืนยันว่าลงมือปฏิบัติการกันเพียงสองคน โดยพี่ชายเป็นตัวการใหญ่
เอฟบีไอนั้นหวังว่า จะได้คำตอบจากโซการ์เกี่ยวกับแรงจูงใจของพี่ชาย รวมทั้งต้องการซักถามว่า มีการวางแผนก่อเหตุอื่นๆ อีกหรือไม่ และได้อาวุธและวัตถุระเบิดจากที่ใด
แหล่งข่าวในรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ไม่เปิดเผยตัวบอกกับซีเอ็นเอ็นว่า การสัมภาษณ์เบื้องต้นพบว่า สองพี่น้องเข้าข่ายนักรบญิฮัดหัวรุนแรง และไม่มีกลุ่มก่อการร้ายระหว่างประเทศเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดนี้แต่อย่างใด
ทั้งนี้ ในปี 2011 รัสเซียระบุว่า ทาเมอร์ลันอาจเป็นมุสลิมหัวรุนแรง นอกจากนั้น ในปีที่ผ่านมา เขายังเดินทางไปรัสเซียนานถึง 6 เดือน ซึ่งระหว่างนั้นเขาแวะเยี่ยมญาติในเชชเนีย 2 วัน
สมาชิกรัฐสภาสหรัฐฯ บางคนออกมากล่าวหาเอฟบีไอว่าหละหลวม ทั้งที่ได้รับแจ้งเรื่องดังกล่าวจากมอสโกและเคยสอบปากคำทาเมอร์ลันเมื่อสองปีที่แล้ว
ลินด์ซีย์ แกรฮ์ม วุฒิสมาชิกสหรัฐฯ กล่าวว่า เอฟบีไอและหน่วยข่าวกรองรัสเซียอาจมองข้ามสัญญาณเตือนบางอย่าง และทำข้อผิดพลาดง่ายๆ เช่น สะกดชื่อทาเมอร์ลันผิด ทำให้เขาสามารถเดินทางไปยังรัสเซียโดยที่ระบบตรวจสอบตรวจไม่พบ
ด้วยเหตุนี้ ในวันอังคาร (23) เจ้าหน้าที่สอบสวนระดับสูงบางคนจึงมีกำหนดไปบรรยายสรุปเกี่ยวกับเรื่องนี้ต่อสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐฯเต็มสภา
การตั้งข้อหาโซการ์มีขึ้นขณะที่ชาวเมืองบอสตัน ตลอดจนทำเนียบขาว และตลาดหุ้นนิวยอร์ก ร่วมยืนไว้อาลัยเมื่อเวลา 14.50 น. (ตามเวลาท้องถิ่น) ของวันจันทร์ เพื่อรำลึกวาระครบรอบ 1 สัปดาห์เหตุระเบิดในการแข่งขันบอสตัน มาราธอน ซึ่งดึงดูดผู้ร่วมแข่งขันนับหมื่น และผู้เข้าชมอีกหลักแสน
เจย์ คาร์นีย์ โฆษกทำเนียบขาวกล่าวว่า จะมีการดำเนินคดีกับโซการ์ในศาลพลเรือน ไม่ใช่ศาลทหารอย่างที่สมาชิกรีพับลิกันบางคนเรียกร้องให้ระบุสถานะผู้ก่อการร้ายรายนี้เป็น “นักรบฝ่ายศัตรู” ซึ่งจะถูกจำกัดสิทธิ์เช่นเดียวกับนักโทษที่เรือนจำในฐานทัพกวนตานาโม