“ในหลวง” ส่งพระราชสาส์น สลดและเสียใจเหตุระเบิดวิ่งมาราธอนที่บอสตัน

เอเจนซีส์/ASTVผู้จัดการออนไลน์ - “ในหลวง” มีพระราชสาส์นแสดงความเสียพระราชหฤทัย กรณีเหตุการณ์ระเบิดที่ “บอสตัน มาราธอน” ขณะที่ทางการอเมริกันเร่งระดมเจ้าหน้าที่ออกสืบสวนหาตัวคนร้าย โดยที่หลังจากล่วงเข้าวันที่ 3 แล้ว ยังคงไม่มีการกักตัวผู้ต้องสงสัยตลอดจนไม่มีผู้แสดงความรับผิดชอบ ทางด้านเอฟบีไอเผยเป้าหมายการตามล่าคือผู้ถือกระเป๋าหรือเป้ใบใหญ่ที่ทำจากไนลอนสีดำ และเชื่อว่าระเบิดซุกซ่อนอยู่ในหม้อต้มความดันไอน้ำ สำหรับผู้เสียชีวิตยังคงมี 3 คนโดย 1 ในนั้นเป็นนักศึกษาสาวชาวจีนที่เพิ่งเรียนจบปริญญาโท

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้มีข้อความพระราชสาส์นแสดงความเสียพระราชหฤทัย กรณีเหตุการณ์ระเบิดระหว่างการแข่งขันวิ่งมาราธอนที่เมืองบอสตัน ดังนี้

“ข้าพเจ้าเศร้าสลดใจอย่างยิ่งที่ได้ทราบข่าวเหตุการณ์ระเบิด ระหว่างการแข่งขันวิ่งมาราธอน ที่เมืองบอสตัน ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต และผู้บาดเจ็บเป็นจำนวนมาก

ข้าพเจ้าและพระราชินีขอแสดงความเสียใจด้วยใจจริงมายังท่าน และประชาชนชาวอเมริกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งครอบครัวของผู้เสียชีวิตจากการสูญเสียที่ไม่อาจทดแทนได้ และความทุกข์อย่างใหญ่หลวงจากเหตุการณ์ร้ายแรงครั้งนี้”

สำหรับการดำเนินการสืบสวนสอบสวนของทางการสหรัฐฯ นั้น ถึงแม้เวลานี้ยังไม่สามารถสรุปได้ว่า ผู้ก่อการคราวนี้เป็นคนนเดียวหรือลงมือเป็นกลุ่ม ตลอดจนเป็นชาวต่างชาติหรือคนอเมริกัน แต่เจ้าหน้าที่เผยว่าสามารถรวบรวมหลักฐานในที่เกิดเหตุได้มากพอที่จะจำกัดวงการค้นหาให้แคบลง

เจ้าหน้าที่สอบสวนสงสัยว่า ระเบิดสองลูกที่ทำงานห่างกันไม่กี่วินาทีและในระยะห่างกันไม่เกิน 100 เมตรเมื่อวันจันทร์ (15) ใกล้ๆ กับจุดเข้าเส้นชัยในการแข่งขันรายการ “บอสตัน มาราธอน” นั้น ได้ถูกบรรจุเอาไว้ในหม้อต้มความดันไอน้ำ

ริชาร์ด เดสลอว์ริเอร์ เจ้าหน้าที่พิเศษของสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐฯ (เอฟบีไอ) ในเมืองบอสตัน เปิดเผยเมื่อวันพุธ (17) ว่า หลักฐานที่รวบรวมได้จากที่เกิดเหตุได้ถูกนำไปประกอบใหม่ในห้องวิจัยของเอฟบีไอที่เมืองควอนติโก มลรัฐเวอร์จิเนีย โดยในจำนวนนี้มีดังเช่น เศษไนลอนสีดำที่อาจมาจากเป้สะพายหลังหรือกระเป๋า เศษตลับลูกปืน ตะปูแบบไม่มีหัว และอาจจะรวมถึงชิ้นส่วนหม้อต้มความดัน แบตเตอรี่ สายไฟ และสิ่งที่ดูเหมือนกับแผงวงจร

ทางการสหรัฐฯ นั้นได้สั่งการให้หน่วยงานสอบสวนทั้งหมดตามล่าผู้อยู่เบื้องหลังเหตุระเบิดคราวนี้ เฉพาะในบอสตันเมืองเดียวมีเจ้าหน้าที่กระจายกำลังค้นหากว่า 1,000 นาย

เดสลอว์ริเอร์สำทับว่า นี่จะเป็นปฏิบัติการสอบสวนระดับโลกเพื่อหาตัวผู้ก่ออาชญากรรมต่ำช้านี้

เขายังบอกอีกว่า อุปกรณ์ระเบิดคราวนี้ซึ่งดูเหมือนจะสามารถประกอบขึ้นอย่างง่ายดายนี้ มีลักษณะเหมือนระเบิดแสวงเครื่องซึ่งพวกผู้ก่อความไม่สงบใช้วางลอบโจมตีตามถนนหนทางในอิรักและอัฟกานิสถาน แต่เขาก็บอกด้วยว่า ยังไม่มีการปักใจไปในทางใด โดย “ขอบเขตของผู้ต้องสงสัยและแรงจูงใจยังคงเปิดกว้างอยู่”

กระนั้น เจ้าหน้าที่อเมริกันสองคนเผยว่า ไม่มีสิ่งบ่งชี้ว่าอัลกออิดะห์หรือองค์กรหัวรุนแรงต่างแดนอยู่เบื้องหลังการโจมตีนี้ แต่สำทับว่าการสอบสวนยังอยู่ในขั้นต้นเท่านั้น

เจ้าหน้าที่สอบสวนยังขอร้องให้ประชาชนส่งภาพหรือวิดีโอที่ถ่ายระหว่างการวิ่งแข่งขันมาราธอนเมืองบอสตันไปให้เพื่อช่วยค้นหาเบาะแสผู้ก่อการ

ทางด้าน จอร์จ เวลมาฮอส หัวหน้าแผนกฉุกเฉินของโรงพยาบาลแมสซาชูเสตส์ เจเนอรัล เปิดเผยรายละเอียดของระเบิดที่ได้จากร่างกายของเหยื่อเคราะห์ร้ายว่า ระเบิดประกอบด้วยชิ้นส่วนโลหะขนาดเล็ก ลูกปราย และตะปูไม่มีหัว

ในเหตุระเบิด 2 ครั้งต่อเนื่องกัน ซึ่งพ่นกระสุนดาวกระจายเข้าใส่ฝูงชนที่ตั้งแถวเชียร์นักวิ่งมาราธอนอยู่บนถนนบอยล์สตันบริเวณใกล้จุดเข้าเส้นชัยคราวนี้ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย และได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 180 คน โดย 17 คนในจำนวนนี้อาการสาหัส เหยื่อที่เสียชีวิตและบาดเจ็บเหล่านี้มีอายุระหว่าง 2-71 ปี โดยเป็นเด็ก 9 คน

หนึ่งในผู้เสียชีวิตคือ มาร์ติน ริชาร์ด วัย 8 ขวบ ที่ร่วมชมการแข่งขันกับครอบครัว แม่ของเขาได้รับบาดเจ็บรุนแรงที่สมอง และน้องสาวต้องตัดขา

เหยื่ออีกคนชื่อว่า คริสเทิล แคมป์เบล วัย 29 ปี เป็นผู้จัดการร้านอาหารในแมสซาชูเสตส์

คนสุดท้ายเป็นนักศึกษาชาวจีนที่เพิ่งจบปริญญาโทจากมหาวิทยาลัยบอสตัน ซึ่งสื่อมวลชนในสหรัฐฯ และฮ่องกงรายงานว่าเธอชื่อ หลู่ว์ หลิงซื่อ แม้ว่าทางครอบครัวของเธอจะร้องขอให้ปิดบังชื่อก็ตาม

ขณะเดียวกัน ยังมีเพื่อนนักศึกษาจีนของเธออีกคนหนึ่งชื่อ โจว ต้านหลิง ได้รับบาดเจ็บสาหัส

ทางด้านประธานาธิบดีบารัค โอบามา ได้ออกมาประณามการโจมตีครั้งนี้ว่าเป็น “การก่อการร้าย” ทั้งนี้ ผู้นำสหรัฐฯ มีกำหนดร่วมพิธีศพเหยื่อระเบิดในบอสตันในวันพฤหัสบดี (18)

หลัคงจากเกิดเหตุ กองกำลังป้องกันประเทศและตำรวจ ได้ออกลาดตระเวนตามสนามบิน สถานีรถไฟและรถประจำทางในบอสตัน ขณะที่เจ้าหน้าที่เตือนว่า จะมีการรักษาความปลอดภัยเข้มงวดอีกหลายวัน โดยเฉพาะระหว่างที่โอบามาเดินทางมาร่วมพิธีไว้อาลัย

นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยเมืองใหญ่ทั่วประเทศ เป็นต้นว่า นิวยอร์ก ลอสแองเจลีส ซานฟรานซิสโก

ขณะเดียวกัน มีรายงานจากรัฐสภาสหรัฐฯ ว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า ในจดหมายฉบับหนึ่งที่ส่งถึงโรเจอร์ วิกเกอร์ วุฒิสมาชิกมลรัฐมิสซิสซิปปี เมื่อวันอังคาร (16) มีสารพิษไรซินปนเปื้อนอยู่ และขณะนี้ เอฟบีไอ ตำรวจรัฐสภา และหน่วยงานอื่นๆ เริ่มสืบสวนเรื่องนี้แล้ว

เทอร์เรนซ์ เกนเนอร์ ตำรวจรัฐสภา เผยว่า จดหมายดังกล่าวส่งมาจากเมืองเมมฟิส รัฐเทนเนสซี แต่ไม่ระบุที่อยู่ของผู้ส่ง

ทั้งนี้ ไรซินเป็นสารที่พบได้ตามธรรมชาติในเมล็ดละหุ่ง และมีฤทธิ์ทำให้เสียชีวิตได้ภายใน 72 ชั่วโมงจากการสัมผัสในปริมาณเพียงหัวเข็มหมุดเท่านั้น

แม้ไม่มีสิ่งบ่งชี้ว่า มีความเชื่อมโยงกับเหตุระเบิดที่บอสตัน แต่วุฒิสมาชิกหลายคนออกปากว่า เหตุการณ์นี้ทำให้นึกถึงการโจมตีด้วยเชื้อแอนแทรกซ์ภายหลังเหตุวินาศกรรม 9/11