เอเจนซีส์ - กองทัพโสมแดงยื่นคำขาดจะตอบโต้แก้แค้นให้หนักหน่วงเหมือนฟาดด้วย “ค้อนปอนด์” อย่างทันทีทันควันโดยไม่มีการเตือนล่วงหน้า หากเกาหลีใต้ไม่ขอโทษที่มีผู้ประท้วงเผาหุ่นผู้นำของตน ด้านโซลเยาะคำขู่ของเปียงยาง “น่าเสียใจ” และ “ไร้สาระ” พร้อมประกาศตอบโต้แข็งกร้าวต่อการยั่วยุทางการทหารใดๆ ก็ตาม
ขณะที่เกาหลีเหนือเฉลิมฉลองวันคล้ายวันเกิดครบรอบ 101 ปีของ คิม อิลซุง ผู้ก่อตั้งประเทศ เมื่อวันจันทร์ (15) ที่ผ่านมา ปรากฏว่ามีผู้ประท้วงกลุ่มเล็กๆ ราว 40 คนในกรุงโซล ได้จัดชุมนุมเผาหุ่นของคิม รวมทั้งของบุตรชายของเขา คือ คิม จองอิล ตลอดจนของคิม จองอึน ผู้หลานชายซึ่งเป็นผู้นำโสมแดงปัจจุบัน
ในวันถัดมา กองบัญชาการสูงสุดของกองทัพเกาหลีเหนือ ซึ่งมีชื่ออย่างเป็นทางการว่า กองทัพประชาชนเกาหลี (เคพีเอ) ได้ออกคำแถลงระบุว่า จะตอบโต้อย่างสาสมทันทีและโดยไม่มีการเตือนล่วงหน้า หากเกาหลีใต้ไม่ออกมาขอโทษการกระทำดังกล่าวที่ถือเป็นการก่ออาชญากรรมชั่วร้าย
“การดำเนินการทางทหาร ...จะรุนแรงประดุจการใช้ค้อนปอนด์อันทรงพลังฟาดใส่กองกำลังปรปักษ์ทั้งมวลที่คุกคามเกียรติศักดิ์ศรีของคณะผู้นำสูงสุดของเรา” สำนักข่าวเคซีเอ็นเอของทางการเปียงยางรายงานเนื้อหาของคำแถลงนี้ ซึ่งมีข้อความระบุด้วยว่า “ถ้าหากทางการหุ่น (รัฐบาลเกาหลีใต้) มีความต้องการอย่างแท้จริงที่จะสนทนากันและเจรจากันแล้ว พวกเขาก็ควรออกมาขอโทษ”
คำขู่ล่าสุดคราวนี้ออกมาในขณะที่มีรายงานข่าวกรองของเกาหลีใต้ระบุว่า โสมแดงได้เตรียมขีปนาวุธพิสัยกลางพร้อมยิงไว้ที่บริเวณชายฝั่งด้านตะวันออกอย่างน้อย 1 สัปดาห์มาแล้ว ซึ่งผู้สังเกตการณ์ส่วนใหญ่คาดว่า อาจจะมีการยิงช่วงวันเกิดคิม อิลซุง
รายงานแจ้งว่า จรวดที่มีการเตรียมการคือมูซูดัน ที่มีพิสัย 4,000 กิโลเมตร ซึ่งครอบคลุมเป้าหมายทั่วทั้งเกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และอาจรวมถึงฐานทัพอเมริกันบนเกาะกวม ด้วย
ทางด้านกองทหารเกาหลีใต้และสหรัฐฯ อยู่ในภาวะเตรียมพร้อมระดับสูงมาตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่ญี่ปุ่นได้นำระบบต่อต้านขีปนาวุธ “แพทริออต” ออกมาประจำการในกรุงโตเกียว และประกาศยิงสกัดขีปนาวุธที่เห็นว่า เป็นภัยคุกคามต่อประเทศ
ขณะเดียวกัน ระหว่างการเยือนเกาหลีใต้ จีน และญี่ปุ่น เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา จอห์น เคร์รี รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวเตือนว่า หากเกาหลีเหนือยิงทดสอบจรวดในสถานการณ์ตึงเครียดเช่นที่เป็นอยู่ ก็อาจเป็น “ความผิดพลาดมหันต์”
เคร์รียังกล่าวถึงความเป็นไปได้ในการฟื้นการเจรจาโดยไม่ตั้งเงื่อนไขล่วงหน้าให้เปียงยางยกเลิกโครงการนิวเคลียร์ และอาจให้ปักกิ่งเป็นตัวกลางการหารือ
พร้อมกันนี้ รัฐมนตรีต่างประเทศแดนอินทรียังยกย่องแนวทางสันติของประธานาธิบดีพัค กึน-ฮเย ของเกาหลีใต้ ในการรับฟังความคิดเห็นของเกาหลีเหนือ
ไม่เพียงเท่านั้น วันอังคาร (16) ทำเนียบขาวได้แถลงว่า ประธานาธิบดีบารัค โอบามา จะเปิดทำเนียบขาวหารือกับ พัค ในวันที่ 7 เดือนหน้า ซึ่งจะเน้นย้ำประเด็นการสานต่อความร่วมมือในสถานการณ์การคุกคามของเกาหลีเหนือ รวมถึงประเด็นด้านเศรษฐกิจ
สำหรับกระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้ ได้ออกคำแถลงพูดถึงคำขู่ล่าสุของเปียงยางว่า “น่าเสียใจ” อย่างยิ่ง พร้อมกันนั้นก็ประกาศตอบโต้ "อย่างชัดเจนและเต็มที่” ต่อการยั่วยุใดๆ
ส่วนโฆษกกระทรวงต่างประเทศโสมขาวระบุว่า คำขู่ของเกาหลีเหนือ “ไร้สาระ” พร้อมเรียกร้องให้เปียงยางกลับสู่การเจรจาตามที่โซลและวอชิงตันเสนอ
ทางด้าน คิม ยอง-ฮยุน ผู้เชี่ยวชาญด้านเกาหลีเหนือจากมหาวิทยาลัยดองกุกในกรุงโซล มองว่า ในคำแถลงของกองทัพเกาหลีเหนือคราวนี้ ใจความสำคัญอยู่ตรงที่มีการกำหนดเงื่อนไขสำหรับการกลับมาสนทนากันใหม่ นี่คือสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม
อนึ่ง วันอังคาร เฮลิคอปเตอร์ทหารนาวิกโยธินอเมริกันแบบ ซีเอช-53 ซูเปอร์สแทลเลียน ซึ่งกำลังบรรทุกลูกเรือ 5 คนและเจ้าหน้าที่อื่นๆ อีก 16 คนในภารกิจซ้อมรบร่วมกับเกาหลีใต้ ได้ตกขณะลงจอดใกล้พรมแดนเกาหลีเหนือ โดยกองทัพสหรัฐฯแถลงว่า สาเหตุที่ทำให้เฮลิคอปเตอร์ลำนี้ต้องลงจอดแบบ “ฮาร์ดแลนดิ้ง” ยังไม่เป็นที่ชัดเจน และมีเจ้าหน้าที่ 6 รายต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล ทั้งหมดอาการทรงตัวแล้ว
