xs
xsm
sm
md
lg

แรงได้อีก! โสมแดงขู่ไม่รับประกันความปลอดภัยสถานทูตยุโรป อิหร่านจวกมะกันคือต้นตอ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online



เอเอฟพี - เกาหลีเหนือวันศุกร์ (5) แจ้งเตือนหลายประเทศในยุโรป มิอาจรับประกันความปลอดภัยแก่สถานทูตต่างชาติหลังวันที่ 10 เมษายน ในกรณีที่มีเหตุรุนแรงจากข้อขัดแย้ง ท่ามกลางความตึงเครียดทางนิวเคลียร์ที่คุกรุ่นขึ้นเรื่อยๆ ในคาบสมุทรเกาหลี ขณะที่อิหร่าน โผล่หนุนหลังเปียงยางสุดตัว จวกสหรัฐฯคือต้นตอของเหตุเผชืญหน้าครั้งนี้

โฆษกกระทรวงต่างประเทศของอังกฤษ เผยว่าทางเปียงยางได้แจ้งมายังลอนดอนว่าตั้งแต่วันที่ 10 เมษายน เป็นต้นไป รัฐบาลเกาหลีเหนือ จะไม่รับประกันความปลอดภัยแก่สถานทูตต่างชาติและองค์กรนานาชาติต่างๆ ภายในประเทศสืบเนื่องจากความขัดแย้ง

อังกฤษนับเป็นหนึ่งในหลายประเทศของยุโรป ซึ่งรวมไปถึงรัสเซีย ที่ได้รับหนังสือเตือนในเรื่องความปลอดภัยของสถานทูตเปียงยาง หลังจากเกาหลีเหนือเคลื่อนย้ายขีปนาวุธพิสัยกลาง 2 ลูกไปยังชายฝั่งตะวันออก
ขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ
ในเรื่องนี้ อังกฤษได้เตือนเกาหลีเหนือกลับไปว่า ขอให้ตระหนักถึงความรับผิดชอบในการปกป้องสถานทูตต่างชาติตามอนุสัญญาเวียนนา และบอกว่าอยู่ระหว่างพิจารณาว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป “เกาหลีเหนือควรมีความรับผิดชอบภายใต้อนุสัญญาเวียนนา ต่อการปกป้องคณะทูต และเรากำลังพิจารณาแนวทางขั้นต่อไป ในนั้นรวมถึงเปลี่ยนแปลงคำแนะนำด้านการเดินทาง”

ส่วนนายเดนิส แซมโซนอฟ โฆษกสถานทูตรัสเซียประจำเกาหลีเหนือ เผยว่า ได้รับแจ้งจากทางการเกาหลีเหนือ ให้อพยพเจ้าหน้าที่พนักงานออกจากสถานทูตในกรุงเปียงยาง และสถานทูตต่างชาติอื่นๆ ก็ได้รับแจ้งเช่นเดียวกันนี้ แต่ทางการรัสเซียจะยังไม่พิจารณา ดำเนินการตามคำร้องขอของทางการเปียงยางในขั้นตอนนี้ เนื่องจากยังไม่ปรากฏสัญญาณของความตึงเครียดเพิ่มขึ้นในเมืองหลวงของเกาหลีเหนือ

ก่อนหน้านี้สำนักข่าวยอนฮับของเกาหลีใต้อ้างถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่ระดับสูงผู้หนึ่งระบุว่าเกาหลีเหนือเคลื่อนได้ย้ายขีปนาวุธพิสัยกลาง 2 ลูกไปยังชายฝั่งตะวันออกและนำไปติดตั้งไว้ที่ฐานยิงที่เคลื่อนไหวได้ อย่างไรก็ตามกระทรวงกลาโหมซึ่งยืนยันการเคลื่อนไหวขีปวุธลูกหนึ่งของเกาหลีเหนือเมื่อวันพฤหัสบดี (4) ยังปฏิเสธที่แสดงความเห็นใดๆ ต่อรายงานข่าวล่าสุดนี้

อีกด้านหนึ่งในวันศุกร์ (5) เกาหลีเหนือ ได้รับการสนับสนุนจากต่างชาติแบบจริงจังเป็นครั้งแรก ด้วยผู้บังคับบัญชาระดับสูงแห่งกองทัพอิหร่าน ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนท้องถิ่นว่า โสมแดง ถูกบีบให้ต้องเผชิญหน้ากับสหรัฐฯ ชาติที่ควรถูกกล่าวโทษว่าเป็นต้นตอของความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลี

“ความตึงเครียดในภูมิภาค เป็นผลจากความต้องการที่เลยเถิดของสหรัฐฯ และพวกเขารัดคอเกาหลีเหนือจนแทบหายใจไม่ออก” นายพลจัตวา มาซูด ยาจาเยรี รองผู้บัญชาการทหารกล่าว “ผลก็คือ เกาหลีเหนือไม่มีทางเลือก ยกเว้นแต่เผชิญหน้ากับพฤติกรรมต่างๆของสหรัฐฯ” พร้อมกันนั้นเขายังกล่าวโทษกลุ่มผู้ค้าสงครามในสหรัฐฯ ที่ยุยงความตึงเครียด แต่ไม่ได้เฉพาะเจาะจงว่าเป็นใคร

เปียงยางซึ่งขุ่นเคืองต่อมาตรการคว่ำบาตรของสหประชาชาติ และการซ้อมรบร่วมระหว่างสหรัฐฯ กับเกาหลีใต้ ออกมาขู่ทำสงครามนิวเคลียร์ล้างผลาญหลายระลอกในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ในเรื่องนี้ ยาจาเยรี สนับสนุนท่าทีที่แข็งกร้าวของโสมแดง โดยระบุว่า “ไม่ว่าประเทศเอกราชใดก็ตาม ไม่ควรยอมจำนนต่อการกระทำของสหรัฐฯ”

นายทหารระดับสูงรายนี้ยังประณามสหประชาชาติด้วยว่า ล้มเหลวในความพยายามยับยั้งชั่งใจสหรัฐฯและปล่อยให้ความตึงเครียดแผ่ลามไปทั่วคาบสมุทรเกาหลี

เกาหลีเหนือ และเตหะราน มีความสัมพันธ์ที่ดีมาตั้งแต่ยุคปฏิวัติอิสลามเมื่อปี 1979 และทั้งสองประเทศยังถูกมาตรการคว่ำบาตรจากคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ต่อการทดสอบขีปนาวุธและโครงการนิวเคลียร์เหมือนๆ กัน ขณะที่ในรายงานของยูเอ็นเมื่อปี 2011 ต้องสงสัยว่าทั้งเตหะรานและเปียงยาง ได้แบ่งปันเทคโนโลยีขีปนาวุธนำวิถีกันและกัน
กำลังโหลดความคิดเห็น