เอเจนซี/เอเอฟพี - สถานการณ์คาบสมุทรเกาหลีเข้าสู่ภาวะคับขัน เมื่อกองทัพเปียงยางวันพุธ (3) ขู่เปิดสงครามวันนี้หรือวันพรุ่งนี้ หลังได้รับอนุมัติขั้นสุดท้ายโจมตีทางทหารโดยปราศจากความเมตตาต่อสหรัฐฯ ในนั้นรวมถึงความเป็นไปได้ถึงการใช้อาวุธนิวเคลียร์ ขณะที่ในเวลาไล่เลี่ยกันเพนตากอนก็แถลงเตรียมส่งระบบต่อต้านขีปนาวุธนำวิถีล้ำสมัยไปยังเกาะกวมสัปดาห์หน้า โดยนายชัค ฮาเกล รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม อ้างถึงอันตรายจากภัยคุกคามของเกาหลีเหนือ
ในถ้อยแถลงที่เผยแพร่ผ่านทางสำนักข่าวกลางเคซีเอ็นเอ เสนาธิการทหารกองทัพประชาชนเกาหลีเหนือ ระบุว่า พวกเขาได้แจ้งเตือนถึงวอชิงตันอย่างเป็นทางการแล้วว่า คำขู่ของสหรัฐฯจะถูกทำลายด้วยวิถีทางโจมตีด้วยอาวุธนิวเคลียร์ต่างๆ นานา “ได้มีการพิจารณาและอนุมัติปฏิบัติการที่ปราศจากความเมตตาของกองกำลังปฏิวัติของพวกเราแล้ว”
“ช่วงเวลาแห่งการเปิดฉากขยับเข้ามาใกล้เร็วมาก สงครามบนคาบสมุทรเกาหลีอาจระเบิดในวันนี้หรือพรุ่งนี้ ด้วยมุมมองในสถานการณ์เช่นนี้ ทางเสนาธิการทหารกองทัพประชาชนเกาหลีเหนือ ซึ่งรับผิดชอบควบคุมทุกปฏิบัติการ จะใช้อำนาจทางทหารทำการตอบโต้อย่างเหมาะสมตามลำดับ”
แม้เกาหลีเหนือประสบความสำเร็จในการทดสอบขีปนาวุธพิสัยไกลเมื่อเดือนธันวาคม แต่ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่เชื่อว่าเปียงยางคงต้องใช้เวลาอีกหลายปีสำหรับพัฒนาขีปนาวุธนำวิถีข้ามทวีปที่สามารถยิงได้ไกลถึงแผ่นดินใหญ่ของสหรัฐฯ ทั้งนี้ ฮาวายและเกาะกวม ก็อยู่นอกรัศมีของขีปนาวุธพิสัยกลาง ทว่าก็มีความเป็นไปได้ที่เป้าหมายการโจมตีจะอยู่ที่ฐานทัพสหรัฐฯในเกาหลีใต้และญี่ปุ่น
ในคำขู่เมื่อเร็วๆ นี้ เกาหลีเหนือประกาศก้องเล็งแผ่นดินอเมริกา รัฐฮาวาย และเกาะกวม เป็นหนึ่งในเป้าหมายของการโจมตีด้วยอาวุธนิวเคลียร์ คำประกาศอันแข็งกร้าวซึ่งผลักคาบสมุทรเกาหลีอยู่บนขอบเหวและจุดชนวนให้อเมริกาปรับเปลี่ยนสถานะการป้องกันตนเอง รวมถึงแผนติดตั้งระบบต่อต้านขีปนาวุธด้วย
“พฤติกรรมบางอย่างของพวกเขาในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา แสดงถึงความอันตรายแบบโต้งๆและที่แท้จริงของพวกเขา” ฮาเกล บอกกับผู้ชมระหว่างร่วมบรรยาย ณ มหาวิทยาลัยป้องกันแห่งชาติในวอชิงตัน พร้อมชี้ว่าท่าทีของเปียงยางเป็นภัยคุกคามต่อผลประโยชน์ของเกาหลีใต้และญี่ปุ่น แถมยังเป็นคำขู่โจมตีโดยตรงต่อเกาะกวม ฮาวาย และชายฝั่งตะวันตกของสหรัฐฯ ด้วย
“พวกเขามีขีดความสามารถทางนิวเคลียร์และตอนนี้ยังมีความสามารถด้านขีนาวุธด้วย” เขากล่าว “เราจริงจังกับคำขู่ของพวกเขา เราจำเป็นต้องจริงจับกับคำขู่เหล่านั้น เราจำเป็นต้องทำทุกทางเท่าที่จะทำได้ ทำงานร่วมกับจีนและชาติอื่นๆ เพื่อบรรเทาสถานการณ์ในคาบสมุทรเกาหลี ผมหวังว่าเกาหลีเหนือจะลดโวหารที่เป็นอันตรายอย่างยิ่งลง”
ไม่นานหลัง ฮาเกล แสดงความเห็น ทางเพนตากอน ก็เผยว่าได้ส่งระบบป้องกันขีปนาวุธแบบ Terminal High Altitude Area Defense(THAAD) เพื่อป้องกันฐานทัพสหรัฐ บนเกาะกวม ในมหาสมุทรแปซิฟิก จากภัยคุกคามของเกาหลีเหนือ
THAAD ซึ่งย่อมาจาก Terminal High Altitude Area Defense เป็นระบบที่ติดตั้งบนรถบรรทุกหนัก สามารถหาตำแหน่งและทิศทางการโจมตีด้วยขีปนาวุธของศัตรูได้ ซึ่งระบบจะส่งจรวดพุ่งขึ้นสกัด และทำลายขีปนาวุธศัตรูกลางอากาศ ขณะที่เกาะกวมเป็นดินแดนโพ้นทะเลของสหรัฐ อยู่ห่างจากชายฝั่งเกาหลีเหนือไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 3,380 กิโลเมตร
“สหรัฐฯ ต้องไม่ประมาทท่ามกลางการยั่วยุของเกาหลีเหนือและต้องพร้อมสำหรับปกป้องดินแดนของเมริกา พันธมิตรและผลประโยชน์ของประเทศ” โฆษกเพนตากอนกล่าว
ก่อนหน้านี้ในวันเดียวกัน เกาหลีเหนือประกาศปิดกั้นไม่ให้เข้าไปในนิคมอุตสาหกรรมเกซอง ซึ่งเป็นโครงการร่วมมือกับเกาหลีใต้เพียงหนึ่งเดียว และยังแหล่งหาเงินตราสกุลแข็งแหล่งสำคัญสำหรับเกาหลีเหนือด้วย
ความเคลื่อนไหวล่าสุดของเปียงยางถือเป็นการโหมกระพือวิกฤตรอบล่าสุด ซึ่งเริ่มต้นขึ้นจากการทดลองขีปนาวุธและอาวุธนิวเคลียร์ของโสมแดง จากนั้นเกาหลีเหนือยังข่มขู่ที่จะโจมตีสหรัฐฯ และเกาหลีใต้ด้วยอาวุธนิวเคลียร์และขีปนาวุธ เพื่อตอบโต้การที่สหประชาชาติเพิ่มมาตรการลงโทษตนเองสืบเนื่องจากการเดินหน้าพัฒนาอาวุธอานุภาพร้ายแรงดังกล่าว ตลอดจนการที่โซลกับวอชิงตันเดินหน้าดำเนินการซ้อมรบใหญ่ประจำปีร่วมกัน
เหตุตึงเครียดบนคาบสมุทรเกาหลีรอบนี้ นอกจากจุดชนวนขึ้นโดยโสมแดงแล้ว ทางด้านสหรัฐฯ ก็ได้แสดงปฏิกิริยาตอบโต้อย่างชนิดไม่มีลดราวาศอก โดยได้แสดงแสนยานุภาพทางทหารให้เป็นที่ประจักษ์ในภูมิภาคนี้ชนิดที่ไม่เกิดขึ้นบ่อยนัก ด้วยการส่งเครื่องบินทิ้งระเบิดที่สามารถบรรทุกอาวุธนิวเคลียร์อย่าง บี-52 ซึ่งเป็นรุ่นเก๋า และบี-2 ที่มีเทคโนโลยีหลบหลีกเรดาร์ (สเตลท์) อันทันสมัย ตลอดจนเครื่องบินขับไล่ เอฟ-22 ซึ่งมีเทคโนโลยีสเตลท์เช่นกัน เข้าไปร่วมซ้อมรบกับเกาหลีใต้ รวมทั้งยังเรือพิฆาต 2 ลำที่มีระบบอาวุธต่อต้านขีปนาวุธชั้นเยี่ยม ไปประจำการในน่านน้ำนอกชายฝั่งของโสมขาวอีกด้วย
