เอเอฟพี - ศาลออสเตรเลียตัดสินจำคุกหญิงชาวไทยซึ่งบังคับให้บุตรสาวขายบริการทางเพศตั้งแต่อายุ 9 ขวบ โดยผู้พิพากษาเมืองจิงโจ้ประณามว่าเป็นอาชญากรรมที่เข้าขั้น “เลวระยำ”
ศาลสูงเมืองบริสเบนพิพากษาจำคุกหญิงชาวไทยเป็นเวลา 9 ปีจากความผิดทั้งหมด 20 กระทง ซึ่งในจำนวนนั้นมีความผิดฐานค้ามนุษย์และค้าประเวณี เนื่องจากผู้ต้องหาบังคับให้บุตรสาววัย 9 ขวบทำงานในร้านนวดแผนไทยซึ่งลักลอบขายบริการทางเพศด้วย
พฤติกรรมของแม่รายนี้เริ่มขึ้นเมื่อเด็กหญิงเดินทางจากประเทศไทยไปเยี่ยมมารดาในปี 2004 โดยขณะนั้นเธออายุเพียง 9 ขวบ และอีก 2 ปีต่อมาเด็กหญิงก็ถูกส่งตัวไปอยู่ออสเตรเลีย และขายบริการทางเพศจนถึงเดือนกันยายน ปี 2011
หญิงผู้เป็นแม่นำลูกสาวแท้ๆ ไปโฆษณาว่าเป็น “เด็กใหม่” และส่งไปบริการลูกค้านอกสถานที่ตั้งแต่อายุ 11 ปี หากเด็กหญิงไม่ทำตามก็จะถูกตบตี และเธอยังสนับสนุนให้ลูกสาวเรียกร้องของกำนัล หรือตอบรับการขอแต่งงานจากลูกค้าด้วย
เด็กหญิงตัดสินใจเล่าให้ผู้ใหญ่ที่รู้จักกับครอบครัวฟัง ก่อนที่เรื่องจะถึงหูตำรวจ
ผู้พิพากษาเดวิด บอดดิซ ระบุว่าหญิงผู้เป็นแม่มีพฤติกรรม “เห็นแก่เงินอย่างชั่วช้าและเป็นระบบ” และมองลูกสาวเป็นเพียง “สินค้า” อย่างหนึ่งเท่านั้น
“พฤติกรรมเช่นนี้น่าสะเทือนใจ, เลวระยำ และสมควรถูกลงโทษ เพราะเป็นการกระทำโดยคนเป็นพ่อแม่ที่เห็นแก่ทรัพย์สิน... และไม่คำนึงถึงศีลธรรมอันดี” บอดดิซกล่าว
หญิงไทยผู้นี้เป็นผู้ต้องหารายแรกที่ถูกดำเนินคดีตามกฎหมายการค้าเด็ก (child trafficking) ซึ่งรัฐบาลออสเตรเลียประกาศใช้เมื่อปี 2005 โดยเธอจะมีสิทธิ์ขอคุมประพฤติหลังจากรับโทษไปแล้ว 4 ปี
ความผิดฐานค้าเด็กในออสเตรเลียมีระวางโทษจำคุกสูงสุด 25 ปี
ศาลสูงเมืองบริสเบนพิพากษาจำคุกหญิงชาวไทยเป็นเวลา 9 ปีจากความผิดทั้งหมด 20 กระทง ซึ่งในจำนวนนั้นมีความผิดฐานค้ามนุษย์และค้าประเวณี เนื่องจากผู้ต้องหาบังคับให้บุตรสาววัย 9 ขวบทำงานในร้านนวดแผนไทยซึ่งลักลอบขายบริการทางเพศด้วย
พฤติกรรมของแม่รายนี้เริ่มขึ้นเมื่อเด็กหญิงเดินทางจากประเทศไทยไปเยี่ยมมารดาในปี 2004 โดยขณะนั้นเธออายุเพียง 9 ขวบ และอีก 2 ปีต่อมาเด็กหญิงก็ถูกส่งตัวไปอยู่ออสเตรเลีย และขายบริการทางเพศจนถึงเดือนกันยายน ปี 2011
หญิงผู้เป็นแม่นำลูกสาวแท้ๆ ไปโฆษณาว่าเป็น “เด็กใหม่” และส่งไปบริการลูกค้านอกสถานที่ตั้งแต่อายุ 11 ปี หากเด็กหญิงไม่ทำตามก็จะถูกตบตี และเธอยังสนับสนุนให้ลูกสาวเรียกร้องของกำนัล หรือตอบรับการขอแต่งงานจากลูกค้าด้วย
เด็กหญิงตัดสินใจเล่าให้ผู้ใหญ่ที่รู้จักกับครอบครัวฟัง ก่อนที่เรื่องจะถึงหูตำรวจ
ผู้พิพากษาเดวิด บอดดิซ ระบุว่าหญิงผู้เป็นแม่มีพฤติกรรม “เห็นแก่เงินอย่างชั่วช้าและเป็นระบบ” และมองลูกสาวเป็นเพียง “สินค้า” อย่างหนึ่งเท่านั้น
“พฤติกรรมเช่นนี้น่าสะเทือนใจ, เลวระยำ และสมควรถูกลงโทษ เพราะเป็นการกระทำโดยคนเป็นพ่อแม่ที่เห็นแก่ทรัพย์สิน... และไม่คำนึงถึงศีลธรรมอันดี” บอดดิซกล่าว
หญิงไทยผู้นี้เป็นผู้ต้องหารายแรกที่ถูกดำเนินคดีตามกฎหมายการค้าเด็ก (child trafficking) ซึ่งรัฐบาลออสเตรเลียประกาศใช้เมื่อปี 2005 โดยเธอจะมีสิทธิ์ขอคุมประพฤติหลังจากรับโทษไปแล้ว 4 ปี
ความผิดฐานค้าเด็กในออสเตรเลียมีระวางโทษจำคุกสูงสุด 25 ปี