เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์-เดลตา แอร์ไลน์ส สายการบินเก่าแก่ที่สุดของสหรัฐฯ กลายเป็นสายการบินแห่งแรกของโลกที่ประกาศจะลดขนาดของห้องสุขาบนเครื่องบินให้เล็กลง โดยอ้างเหตุผลจำเป็นต้อง “ลดต้นทุน”
รายงานข่าวระบุว่า สายการบินเดลตา แอร์ไลน์สซึ่งก่อตั้งกิจการมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1924 และมีฐานอยู่ที่เมืองแอตแลนตา ในมลรัฐจอร์เจีย สร้างประวัติศาสตร์ด้วยการกลายเป็นสายการบินแห่งแรกในธุรกิจการบินโลกที่จะลดขนาดของห้องสุขาบนเครื่องให้เล็กลงกว่าเดิม โดยทางเดลตาประกาศจะเริ่มทดลองใช้สุขาซึ่งมีพื้นที่น้อยกว่า 3x3 ฟุตในเครื่องบินแบบโบอิ้ง 737-900 ก่อนจะมีการลดขนาดของห้องน้ำในเครื่องบินแบบอื่นๆต่อไปเพื่อประหยัดต้นทุนของสายการบิน
ริชาร์ด เอช. แอนเดอร์สัน ซีอีโอของเดลตา แอร์ไลน์ส ระบุว่า ทางสายการบินจำเป็นต้องลดต้นทุนในการดำเนินงานรองรับกับการแข่งขันในธุรกิจการบินที่สูงขึ้น และการตัดสินใจลดขนาดของห้องน้ำบนเครื่องบินลงครั้งนี้จะช่วยให้ทางสายการบินสามารถนำเนื้อที่ไปติดตั้งที่นั่งในชั้นประหยัดได้เพิ่มขึ้นอีกถึง 4 ที่ ซึ่งจะทำให้ทางสายการบินมีรายได้เพิ่มขึ้น แทนการสูญเสียพื้นที่ไปกับห้องสุขาแบบเปล่าประโยชน์
“ผมเชื่อว่าผู้โดยสารส่วนใหญ่ไม่ได้ต้องการทำธุระในห้องสุขาที่กว้างขวางโอ่โถงบนเครื่องบิน และผมคิดว่า การลดขนาดของสุขาให้เล็กลงกว่าเดิม จะเปิดทางให้เรานำที่นั่งมาติดตั้งได้เพิ่มขึ้นอีก 3-4 ที่ ซึ่งวิธีนี้จะทำให้เรามีรายได้เพิ่มขึ้น” แอนเดอร์สันกล่าว
ทั้งนี้ เป็นที่คาดกันว่า บรรดาผู้บริหารของสายการบินอื่นๆ โดยเฉพาะในสหรัฐฯอาจตัดสินใจดำเนินรอยตามเดลตา แอร์ไลน์สในเร็วๆนี้ เพื่อลดต้นทุนของตัวเองและหารายได้จากที่นั่งที่เพิ่มขึ้น 3-4 ที่นั่งในแต่ละเที่ยวบิน เนื่องจากขนาดของห้องสุขาบนเครื่องบินนั้น ไม่ได้อยู่ในความควบคุมจากสำนักงานบริหารการบินแห่งชาติของสหรัฐฯ (เอฟเอเอ) แต่อย่างใด เพราะระเบียบของหน่วยงานดังกล่าวกำหนดไว้เพียงแค่ให้สายการบินจัดห้องสุขาไว้บริการผู้โดยสารเท่านั้น แต่ไม่ได้ระบุว่า สุขาต้องใหญ่หรือเล็กเพียงใด
ความเคลื่อนไหวล่าสุดในการลดขนาดห้องสุขาบนเครื่องบินให้เล็กลงของเดลตา แอร์ไลน์ส มีขึ้นเพียงไม่ถึง 48 ชั่วโมงหลังจากที่สายการบินซามัว แอร์ แห่งหมู่เกาะอเมริกัน ซามัว ซึ่งเป็นดินแดนในปกครองของสหรัฐฯทางตอนใต้ของมหาสมุทรแปซิฟิกประกาศมาตรการจำหน่ายตั๋วเครื่องบินแบบใหม่ ที่คิดราคาโดยยึดน้ำหนักตัว ของลูกค้า และสัมภาระเป็นเกณฑ์ โดยระบุน้ำหนักตัวของผู้โดยสารและน้ำหนักของสัมภาระทุกๆ 1 กิโลกรัม จะต้องเสียค่าตั๋วเครื่องบินตั้งแต่ 93 เซนต์ ไปจนถึง 1.06 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 31 บาท)
