xs
xsm
sm
md
lg

“โอบามา” ยอมหั่นเงินเดือนตัวเอง 5% ขานรับแผนตัดงบอัตโนมัติ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ประธานาธิบดี บารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ
รอยเตอร์/ASTVผู้จัดการออนไลน์ - ประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ ประกาศลดเงินเดือนตัวเองลง 5% เพื่อแสดงความเป็นหนึ่งเดียวกับพนักงานรัฐที่ต้องยอมใช้วันลาโดยไม่ได้รับค่าจ้าง เนื่องจากทุกหน่วยงานต่างกระเสือกกระสนที่จะลดผลกระทบจากแผนตัดงบอัตโนมัติ (sequestration) ที่เริ่มบังคับใช้เมื่อเดือนที่แล้ว

เจ้าหน้าที่วอชิงตัน เผยวันนี้ (4) ว่า การตัดเงินเดือนประธานาธิบดีเริ่มมีผลบังคับเมื่อวันที่ 1 มีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงที่รัฐบาลสหรัฐฯเริ่มใช้มาตรการตัดงบรายจ่ายอัตโนมัติ และจะไปสิ้นสุดลงที่เดือนธันวาคม

โอบามา มีรายได้ตลอดทั้งปี 400,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 11,700,000 บาท) การลดเงินเดือนลง 5% จึงจะทำให้เขามีรายได้น้อยลงไป 20,000 ดอลลาร์ (587,000 บาท) เท่ากับอัตราการตัดเงินเดือนในหน่วยงานภาครัฐที่ไม่อยู่ในสังกัดกระทรวงกลาโหม

หน่วยงานในสังกัดกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ และอื่นๆ ล้วนได้รับผลกระทบโดยตรงจากการตัดงบแบบเหมารวม หรือ “ซีเควสเตรชัน” (sequestration) ซึ่งหลายหน่วยงานต้องแก้ปัญหาด้วยการขอให้พนักงานหยุดงานโดยไม่ได้รับค่าจ้างสัปดาห์ละ 1 วัน หรืออนุญาตให้ลาพักยาว

“ประธานาธิบดีเห็นว่า ตัวท่านเองก็ควรมีส่วนเสียสละเช่นเดียวกับพนักงานรัฐทุกคน ดังนั้นท่านจะสละส่วนหนึ่งของเงินเดือนเพื่อเก็บเข้าคลัง” เจย์ คาร์นีย์ โฆษกทำเนียบขาว ให้สัมภาษณ์ระหว่างติดตามประธานาธิบดีไปปฏิบัติภารกิจที่รัฐโคโลราโดและแคลิฟอร์เนีย

เจ้าหน้าที่อาวุโสของเพนตากอนคนหนึ่งเคยเผยก่อนหน้านี้แล้วว่า โอบามาจะยอมตัดเงินเดือนตัวเองเท่ากับเจ้าหน้าที่ฝ่ายพลเรือนทั่วไป

ขณะเดียวกัน รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม ชัค เฮเกล ก็จะคืนรายได้เข้าคลัง 10,750 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเท่ากับการทำงาน 14 วัน โฆษกของเขาระบุเมื่อวันอังคาร (2)

หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์ส เป็นสื่อรายแรกที่รายงานข่าวการลดเงินเดือนตัวเองของโอบามา

เดิมทีนั้น มาตรการตัดงบรายจ่ายอัตโนมัติถูกกำหนดขึ้นเพื่อเป็นแรงกระตุ้นให้ผู้ที่ร่วมเจรจาแผนงบประมาณต้องหาวิธีลดยอดขาดดุลงบประมาณ 3 ล้านล้านดอลลาร์ของสหรัฐฯ ลงให้ได้ แต่แล้ว โอบามา ก็ยืนยันเสียงแข็งว่าจะต้องมีการขึ้นภาษีควบคู่ไปด้วย ขณะที่รีพับลิกันก็ไม่ปรารถนาที่จะอ่อนข้อในเรื่องภาษีอีก หลังจากที่เคยยอมไปแล้วครั้งหนึ่งเพื่อหลีกเลี่ยง “หน้าผาการคลัง” (fiscal cliff) เมื่อช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา

ผลของการเจรจาที่ล้มเหลวเมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ ส่งผลให้สหรัฐฯ ต้องจำใจใช้มาตรการซีเควสเตรชัน ซึ่งจะมีผลให้หน่วยงานภาครัฐทั้งหมดถูกตัดงบประมาณทั้งสิ้น 85,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยครึ่งหนึ่งจะมาจากงบกระทรวงกลาโหม
กำลังโหลดความคิดเห็น