ปธน.และครม.ไซปรัสลดเงินเดือนตนเอง ปชช.ต่อแถวยาวหลังแบงค์เปิดวันแรก

เอเอฟพี/เอเจนซี - ประธานาธิบดีไซปรัสและเหล่าคณะรัฐมตรี ยอมลดเงินเดือนตนเอง หลังประเทศต้องเผชิญกับวิกฤตทางการเงิน ขณะเดียวกันธนาคารต่างๆของไซปรัสก็กลับมาเปิดบริการเป็นครั้งแรกในวันพฤหัสบดี(28) ท่ามกลางประชาชนที่รอต่อแถวใช้บริการยาวในแต่ละสาขา แต่บรรยากาศโดยทั่วไปก็อยู่ในความสงบ

คอนสแตนตินอส เปตริเดส ผู้ช่วยเลขานุการประธานาธิบดีบอกกับผู้สื่อข่าวว่าประธานาธิบดีนิคอส อนาตาเซียเดส ให้อำนาจสมุหบัญชีลดเงินเดือนลงร้อยละ 25 ส่วนคณะรัฐมนตรีจะถูกตัดเงินเดือนลงร้อยละ 20 นอกจากนี้แล้วทั้ง อนาตาเซียเดส และคณะรัฐมนตรี ก็ยังจะงดรับเงินเดือนเดือนที่ 13 ทั้งหมดด้วย

ขณะเดียวกัน เปตริเดส ยังเผยด้วยว่าในวันพฤหัสบดี(28) ทางคณะรัฐมนตรียังมีมติเห็นชอบแต่งตั้งอดีตผู้พิพากษาศาลฎีกา 3 ราย เข้าดำเนินการสืบสวนพิจารณาว่ามีการกระทำผิดทางอาญาจนเกือบทำให้ภาคธนาคารของประเทศต้องล้มละลายหรือไม่ "คณะชุดนี้จะเข้าตรวจสอบเพื่อหาความความรับผิดชอบทางอาญา แพ่งและทางการเมือง"

อีกด้านหนึ่งรายงานข่าวระบุว่าพบเห็นประชาชนชาวไซปรัส ต่อแถวอย่างสงบตามสาขาธนาคารต่างๆที่กลับมาเปิดบริการอีกครั้งในวันพฤหัสบดี(28) ภายใต้ข้อกำหนดควบคุมการทำธุรกรรมอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันการแห่ถอนเงินฝาก หลังรัฐบาลต้องจำใจยอมรับเงื่อนไขกู้ยืมเงินอันแสนทุกข์ทรมานจากอียูและไอเอ็มเอฟ เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะล้มละลาย

ธนาคารต่างๆในไซปรัสต้องปิดบริการไปนานเกือบ 2 สัปดาห์ เพื่อรอผลการเจรจาของรัฐบาลกับเจ้าหนี้นานาชาติในการขอเงินช่วยเหลือ 10,000 ล้านยูโร จนท้ายที่สุดก็กลายเป็นชาติแรกในยูโรโซนที่ต้องออกข้อบังคับเรียกเก็บภาษีจากมีบัญชีเงินฝากในธนาคาร

พนักงานธนาคารมาทำงานแต่เช้าขณะที่เงินสดถูกขนส่งมายังธนาคารด้วยยานยนต์หุ้มเกราะ และภายในเวลาไม่นานก็พบเห็นชาวบ้านต่อแถวรอทำธุรกรรมตามสาขาต่างๆในเมืองหลวง โดยหลายสาขามีประชาชนยืนต่อคิวอย่างน้อยๆไม่ต่ำกว่า 10 คน ภายใต้การดูแลเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย

ทั้งนี้ประตูธนาคารเปิดในเวลาเที่ยงตรง(ตรงกับเมืองไทย 17.00 น.) ทว่าเบื้องต้นยังไม่พบเห็นสัญญาณของการแห่ถอนเงินตามที่กังวลกันแต่อย่างใด

ธนาคารกลางแห่งไซปรัสเผยในวันเดียวกัน ว่าจากข้อมูลพบเหล่าผู้ถือบัญชีเงินฝากจากชาติอื่นๆในยูโรโซน ถอนเงินออกจากเกาะแห่งนี้ไปประมาณร้อยละ 18 ในเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นช่วงที่เริ่มมีข่าวเกี่ยวกับการเก็บภาษีเงินฝาก อย่างไรก็ตามโดยรวมแล้วยอดเงินฝากภาคเอกชนในไซปรัส ของเดือนกุมภาพันธ์ ลดลงแค่ร้อยละ 2.2 เหลือ 46,400 ล้านยูโร ซึ่งก็ลดลงในอัตราเดียวกับเดือนมกราคม

เจ้าหน้าที่เผยว่าข้อกำหนดฉุกเฉินที่จำกัดการเคลื่อนย้ายเงินทุนจะบังคับใช้แค่ชั่วคราว เบื้องต้นก็จะราวๆ 7 วัน แต่เหล่านักเศรษฐศาสตร์เชื่อว่าเป็นเรื่องยากที่จะยกเลิกมาตรการที่เพิ่งประกาศออกมาตราบใดที่เศรษฐกิจของไซปรัสยังคงอยู่ในวิกฤต