เอเจนซี/เอเอฟพี - ภาวะฝนตกหนักทำ "ลา ปลาตา" เมืองหลักของกรุงบัวโนสไอเรส จมอยู่ใต้บาดาล และคร่าชีวิตชาวบ้านอย่างต่ำ 25 ราย เจ้าหน้าที่เผยเมื่อวันพุธ(3) ส่งผลให้ยอดรวมเหยื่อฝนตกหนักสุดเป็นประวัติการณ์ ที่ซัดถล่ม อาร์เจนตินา ตั้งแต่ช่วงต้นสัปดาห์ เพิ่มเป็น 33 ศพแล้ว
พายุรุนแรงซัดถล่มเมืองลาปลาตา ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากกรุงบัวไนสไอเรส ไปทางใต้ราว 63 กิโลเมตร ตั้งแต่ค่ำคืนวันอังคาร(2) ต่อเนื่องถึงวันพุธ(3) หลังจากก่อนหน้านี้ในช่วงต้นสัปดาห์ก็เพิ่งเล่นงานเมืองหลวงมาหมาดๆ
ดาเนีบล ชิโอลี ผู้ว่าราชการจังหวัดบัวไนสไอเรสเผยว่า "พอน้ำลด ก็เริ่มพบเห็นศพเพิ่มเติม" พร้อมเผยว่าในบรรดาผู้เสียชีวิตนั้น มีหลายคนที่จมน้ำตาย หลังพยายามเข้าไปหลบภัยในรถยนต์ส่วนตัว ในเมืองโตลูซา ชานเมืองลาปลาตา
เจัาหน้าที่เผยว่าในเมืองลาปลาตา มีฝนตกลงมาหนาเม็ดถึง 40 เซนติเมตร ต่อเนื่องกว่า 2 ชั่วโมง ทำสายโทรศัพท์ขาด เสาไฟฟ้าหักโค่นและชาวบ้านต้องอยู่ท่ามกลางความมืดมิด
มีประชาชนราวๆ 2,200 คนที่อพยพจากเมืองแล้ว ส่วนพวกที่ยังไม่ย้ายออกก็จำเป็นต้องตะเกียกตะกายขึ้นไปอยู่บนหลังคาเพื่อความปลอดภัย ขณะที่ฝนซึ่งตกลงมาอย่างหนัก แปรเปลี่ยนถนนหลายสายเป็นทางน้ำ แถมบางพื้นที่ย่านกลางกรุง มีรายงานว่าระดับน้ำท่วมสูงกว่า 160 เซนติเมตรเลยทีเดียว
"มันไม่เคยเกิดขึ้นที่ลา ปลาตา มาก่อน" เซอร์จิโอ เบอร์นี รัฐมนตรีความมั่นคงอาร์เจนตินากล่าว "ผู้คนหนีขึ้นไปอยู่บนหลังคาและต้นไม้ เพื่อรอให้เราเข้าไปช่วยเหลือ" พร้อมเผยว่าหน่วยดับเพลิง เจ้าหน้าที่ป้องกันพลเรือน ตำรวจและทหารถูกส่งลงพื้นที่เข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้ว
ซานตาอาร์โก มาร์โตเรลลี เจ้าหน้าที่ระดับอาวุโสของเมืองลา ปลาตา บอกกับสถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นว่าอุทกภัยครั้งนี้ยับเป็นหายนะ และโรงเรียนกับสำนักงานราชการท้องถิ่นจำเป็นต้องปิดทำการในวันพุธ(3)
ก่อนหน้านี้เมื่อวันอังคาร(2) มีชาวบ้านเสียชีวิต 8 ราย จากพายุรุนแรงลูกเดียวกันนี้ซัดถล่มตัวเมืองหลวงของอาร์เจนตินาและแถบชานเมือง ทำเอาเสาไฟฟ้าและต้นไม้หักโค่น ขณะที่สำนักอุตุนิยมวิทยาบัวโนสไอเรส เผยว่ามีฝนหนาเม็ดกว่า 15 เซนติเมตร ตกลงมาต่อเนื่องนานหลายชั่วโมงระหว่างช่วงเที่ยงคืนวันจันทร์(1) จนถึงช่วงเช้าวันอังคาร(2)
ด้านบริษัทน้ำมันวายพีเอฟของอาร์เจนตินาเผยว่าฝนที่ตกลงมาอย่างหนักยังทำให้น้ำท่วมโรงกลั่นน้ำมันใหญ่ที่สุดของประเทศ และเกิดไฟไหม้ที่ต้องใช้เวลาดับนานหลายชั่วโมง จนที่สุดแล้วก็จำเป็นต้องปิดปฏิบัติการชั่วคราวและอยู่ระหว่างประเมินว่าจะกลับมาเดินเครื่องอีกครั้งได้เมื่อไหร่