xs
xsm
sm
md
lg

“มหาเธร์” โผล่บีบ “รบ.นาจิบ” หวั่นแพ้เลือกตั้ง “อันวาร์” ยิ้มร่าบอกคนจะหันเลือกฝ่ายค้านมากขึ้น

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

มหาเธร์ โมฮัมหมัด ที่ยังคงได้รับความเคารพท่วมท้นจากชาวมาเลย์(ซ้าย) อันวาร์ อิบราฮิม(ขวา)
เอเอฟพี - สี่ปีหลังจากนำทีมเลื่อยขาเก้าอี้นายกรัฐมนตรีมาเลเซียคนที่แล้ว วันนี้ มหาเธร์ โมฮัมหมัด ที่ยังคงได้รับความเคารพท่วมท้นจากชาวมาเลย์ กลับมาแสดงอิทธิพลอีกครั้งด้วยความกังวลว่า รัฐบาลจะพ่ายแพ้ศึกเลือกตั้งที่กำลังจะมีขึ้นกลางปีนี้ ทว่า อันวาร์ อิบราฮิม ผู้นำฝ่ายค้านและอดีตลูกน้องคนสนิท กลับเชื่อว่า การกลับมาของเสือเฒ่าครั้งนี้อาจกระตุ้นให้ประชาชนที่เบื่อหน่าย “มหาเธร์นิยม” หันมาสนับสนุนพรรคฝ่ายค้านมากขึ้น

มหาเธร์ วัย 87 ปี ที่ปกครองแดนเสือเหลืองยาวนานถึง 22 ปี ด้วยอภิมหาโครงการพัฒนามากมายและการเมืองสไตล์เหนียวแน่นไม่ยอมใคร กลับสู่หน้าฉากการเมืองอีกครั้งเพื่อระดมเสียงสนับสนุนระบอบที่เขาสร้างขึ้นกับมือ ด้วยการเตือนว่า ความพ่ายแพ้ของรัฐบาลที่บริหารประเทศมาถึง 56 ปีจะนำมาซึ่งความปั่นป่วนวุ่นวาย

ความเคลื่อนไหวนี้ทำให้ย้อนนึกถึงเมื่อ 4 ปีที่แล้ว ที่มหาเธร์บอกว่านายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัค อาจถูกยึดตำแหน่งผู้นำพรรคเช่นเดียวกับ อับดุลเลาะห์ บาดาวี หัวหน้าพรรคและนายกฯคนก่อน หากไม่ปรับปรุงแก้ไขภายหลังผลการเลือกตั้งที่บ่งชี้ความเสื่อมถอยรุนแรงและสร้างความตกตะลึงพรึงเพริดให้แก่แนวร่วมพรรครัฐบาล บาริซาน เนชันแนล ซึ่งมีพรรคสหมาเลย์แห่งชาติ (อัมโน) เป็นแกนนำ

ความคิดเห็นดังกล่าวของเขามีขึ้นหลังจากที่มหาเธร์ ซึ่งปลดเกษียณตัวเองในปี 2003 ช่วยโค่นล้ม บาดาวี ผู้สืบทอดทางการเมืองที่เขาเลือกมากับมือ โดยการออกมารณรงค์วิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงหลังการเลือกตั้ง 1 ปีที่พรรคฝ่ายค้านกวาดที่นั่งในสภาสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในเวลานั้น

มหาเธร์หรือที่หลายคนเรียกขานว่า “ดร.เอ็ม” จากที่เขาเคยร่ำเรียนวิชาแพทย์มานั้น ยังคงเป็นที่เคารพนับถือของชาวมาเลย์จำนวนมากซึ่งเป็นชนกลุ่มใหญ่ในประเทศ สืบเนื่องจากการสร้างความสำเร็จทางเศรษฐกิจ เสถียรภาพ และการปกป้องผลประโยชน์ของชาวมาเลย์

อิบราฮิม ซัฟเฟียน ประธานบริษัทจัดทำโพล์ชั้นนำ เมอร์เดกา เซ็นเตอร์ ชี้ว่า มหาเธร์ยังคงมีอิทธิพลอย่างมากภายในพรรคอัมโน และการที่ฝ่ายค้านประกาศกำจัดล้างบางลัทธิอำนาจนิยม ทำให้เขาต้องลุกขึ้นมาปกป้องมรดกการเมืองของตนเอง

ความกดดันจึงไปตกอยู่ที่นาจิบในการนำทัพอัมโนสู้ศึกเลือกตั้งที่ถึงวาระต้องจัดขึ้นภายในปลายเดือนมิถุนายนนี้ และถูกคาดหมายอย่างกว้างขวางว่า รัฐบาลจะชนะแบบเฉียดฉิวเท่านั้น

ก่อนหน้านี้มหาเธร์ตั้งข้อสงสัยอย่างเปิดเผยต่อท่าทีสนับสนุนแนวทางเสรีนิยมของนาจิบ และเตือนว่าอาจเกิดเหตุการณ์วุ่นวายขึ้นภายในประเทศที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมอย่างมาเลเซีย ซึ่งชนกลุ่มน้อยชาวจีนและอินเดียมีความไม่พอใจการครอบงำของชาวมาเลย์อยู่เป็นทุนเดิม

นอกจากนั้น หลายคนตั้งข้อสังเกตว่าระยะนี้มหาเธร์สนิทสนมกับรองนายกรัฐมนตรีมูห์ยิดดิน ยัสซิน นักชาตินิยมมาเลย์ และอาจพยายามครอบงำการชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคอัมโนที่จะมีขึ้นภายหลังการเลือกตั้งไม่นาน

ลิม กิตเซียง แกนนำพันธมิตรฝ่ายค้านที่เคยถูกคุมขังสมัยมหาเธร์เป็นนายกรัฐมนตรี วิจารณ์ว่า นาจิบกำลังอยู่ในช่วงรอพินิจ และครูใหญ่ผู้ที่จะตัดสินอนาคตของนาจิบคือมหาเธร์

มหาเธร์ที่แม้ร่างกายไม่อาจเคลื่อนไหวได้อย่างคล่องแคล่วอีกต่อไปแต่สติปัญญายังแจ่มใส ค่อนข้างเก็บตัวในระยะหลายปีที่ผ่านมา แต่ล่าสุดเขาบอกว่าความกลัวว่าฝ่ายค้านจะชนะเลือกตั้งอันจะทำให้ประเทศชาติเผชิญปัญหามากมาย ทำให้เขานิ่งเฉยอยู่ไม่ได้

หลายคนวิจารณ์ว่า มหาเธร์โหนกระแสสังคมและปลูกเพาะความกลัวให้แก่ประชาชน โดยยกตัวอย่างการให้การอุปถัมภ์กลุ่มมุสลิมปีกขวา “เปอร์กาซา” ที่ก่อตั้งขึ้นภายหลังการเลือกตั้งปี 2008 และรณรงค์ปกป้องฐานะการครอบงำประเทศของชนมาเลย์ โดยที่กลุ่มนี้ยังถูกกล่าวหาว่าจุดชนวนความตึงเครียดด้านชาติพันธุ์และศาสนา

อย่างไรก็ตาม ในสายตาอันวาร์ อิบราฮิม ผู้นำฝ่ายค้านนั้น กลับมองว่า การกลับมาของมหาเธร์ครั้งนี้จะช่วยกระตุ้นให้ประชาชนหันมาสนับสนุนจุดยืนของฝ่ายค้านในการโค่นล้มลัทธิมหาเธร์นิยมมากขึ้น

อันวาร์นั้นเคยถูกวางตัวเป็นทายาทการเมืองของมหาเธร์จนกระทั่งเกิดการขัดแย้งกัน ส่งผลให้เขาถูกปลดจากตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีในปี 1998 และถูกจำคุก 6 ปีข้อหาคอร์รัปชันและมีเพศสัมพันธ์กับผู้ชายด้วยกัน ซึ่งคนมากมายมองว่า เป็นแผนกโลบายทางการเมืองของมหาเธร์
กำลังโหลดความคิดเห็น