รมว.คลัง โว พ.ร.บ.2 ล้านล้าน มาตรฐานสูงกว่า พ.ร.ก.4 แสนล้านสมัย ปชป.เยอะ ยันชำระหนี้ไม่กระทบสภาพคล่องประเทศ หากสำเร็จผ่านไป 7 ปีจะช่วยเซฟพลังงานของประเทศ “อัชพร” รับรองไม่ขัด รธน. “เหลิม” ร้อนตัวรีบแจงกลัวตกเก้าอี้ หลัง “นายกฯ ปู” ขู่ใครไม่ร่วมประชุมมีสิทธิ์ปิ๋วจากเก้าอี้ รมต.
แหล่งข่าวจากที่ประชุม ครม.เปิดเผยว่า ในการประชุมวานนี้ (19 มี.ค.) ใช้เวลาในการพิจารณาเกี่ยวกับ พ.ร.บ.การกู้เงินเพื่อใช้ในโครงสร้างพื้นฐาน 2 ล้านล้านบาท ประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง ซึ่ง พ.ร.บ.ฉบับนี้มีเนื้อหาเยอะและละเอียดมาก จำนวนถึง 268 หน้า โดยมีนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกฯ และรมว.คลัง รวมถึงนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รมว.คมนาคม เป็นผู้ลุกขึ้นชี้แจงสลับกันโดยได้นำชาร์ตมาแสดงโชว์ใน ครม.ด้วย
แหล่งข่าวเปิดเผยด้วยว่า นายกิตติรัตน์ได้หยิบยกเอา พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงิน เพื่อปรับปรุงโครงสร้างทางเศรษฐกิจ 4 แสนล้านในสมัยพรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล มาเปรียบเทียบกับ พ.ร.บ.การกู้เงินเพื่อใช้ในโครงสร้างพื้นฐาน 2 ล้านล้านบาทของรัฐบาลชุดปัจจุบัน โดยนายกิตติรัตน์ระบุว่า เห็นได้ชัดเจนว่า พ.ร.บ.2 ล้านล้านของรัฐบาลปัจจุบันดีกว่า พ.ร.ก.4 แสนล้านในสมัยพรรคประชาธิปัตย์ เพราะมีมาตรฐานสูงกว่า มีการตรวจสอบได้ง่าย มีความโปร่งใสในการจัดซื้อจัดจ้าง และมีความชัดเจนกว่า และยังมีกฎหมายมาบังคับมากกว่าด้วย
“ในระหว่างการชี้แจง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้มีการซักถามเป็นระยะ พร้อมทั้งได้ถามนายอัชพร จารุจินดา เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกาอยู่ตลอดว่าทำได้หรือไม่ ผิดกฎหมายหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ใน พ.ร.บ.2 ล้านล้านนี้ทางเลขาธิการกฤษฎีกาได้ยืนยันในที่ประชุม ครม.3 ข้อ คือ 1. พ.ร.บ.2 ล้านล้านบาทนี้เป็น พ.ร.บ.ฉบับแรกที่มีการกำหนดรายละเอียดว่าจะเอาเงินไปทำอะไรบ้าง เพราะมีทั้งโครงการ แผนที่ และจุดที่จะมีการก่อสร้าง 2. พ.ร.บ.2 ล้านล้านบาทฉบับนี้ไม่ขัดรัฐธรรมนูญ และ 3. การบริหารโครงการเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด ไม่ใช่เป็นเหมือน พ.ร.ก. 4 แสนล้านบาทในสมัย ปชป.ที่เหมือนเป็นการมัดมือชกในโครงการไทยเข้มแข็ง ซึ่งก่อนที่จะออกมาเป็น พ.ร.บ.ก็ผ่านความเห็นชอบจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นสภาพัฒน์ กระทรวงการคลัง หรือกระทรวงคมนาคม” แหล่งข่าวเปิดเผย
แหล่งข่าวเปิดเผยด้วยว่า นายกิตติรัตน์ได้ย้ำว่าจะมีการเน้นก่อสร้างถนน รถไฟเท่านั้น จะไม่เน้นการก่อสร้างสาธารณูปโภคอื่นๆ และการลงทุนครั้งนี้ยอมรับว่าเป็นเงินก้อนใหญ่ แต่เมื่อมีการลงทุนแล้วก็จะเป็นสมบัติของชาติ ของลูกหลานในอนาคตต่อไป ทั้งนี้ยืนยันว่าการชำระหนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อสภาพคล่องของประเทศ หากประสบผลสำเร็จผ่านไป 7 ปีจะช่วยลดความสูญเสียด้านพลังงานของประเทศ
แหล่งข่าวเปิดเผยด้วยว่า ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯได้แสดงความเห็นว่า เมื่อ พ.ร.บ. 2 ล้านล้านบาทเข้าสภา ก็อยากให้พวกเราใจกว้าง เพราะเงินจำนวนมหาศาล เป็นเรื่องธรรมดาที่ฝ่ายค้านจะท้วงติง ขออภิปรายหลายวันหน่อย ดังนั้นเราก็ต้องเปิดใจรับฟังความเห็น
“ร.ต.อ.เฉลิมได้พูดด้วยว่า ทราบดีว่าเรื่องนี้นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญ และเคยเห็นข่าวที่อ้างถึงคำพูดนายกฯ ว่า อยากให้สมาชิกและ ครม.ทุกคนให้ความสำคัญกับเรื่อง พ.ร.บ.2 ล้านล้านฉบับนี้ อยากให้เข้าร่วมประชุมทุกคน และหากใครไม่สนใจไม่มาเข้าร่วมประชุม หรือไม่มาลงมติก็จะหลุดจากตำแหน่ง แต่พอดีผมต้องเดินทางไปหารือกับมหาเธร์ อดีตนายกฯ มาเลเซีย ผมจะทำอย่างไรดี แล้วถ้าเป็นอย่างนี้ผมจะหลุดจากตำแหน่งหรือเปล่า” แหล่งข่าวอ้างคำพูด ร.ต.อ.เฉลิม จนเรียกเสียงฮาในที่ประชุม ครม.
อย่างไรก็ตาม มีการระบุถึงสัดส่วนคณะกรรมาธิการวิสามัญหากมีการนำเข้าพิจารณาในวันที่ 28 มี.ค.นี้แล้ว โดยคาดว่าจะมีทั้งหมด 31 คน คือ รัฐบาล 5 พรรคเพื่อไทย 14 ฝ่ายค้าน 8 พรรคชาติไทยพัฒนา 1 และพรรคชาติพัฒนา และพรรคพลังชล 1
