เอเอฟพี - ราคาน้ำมันวานนี้ (15) ขยับขึ้นพอสมควร ท่ามกลางความกังวลรอบใหม่ในตะวันออก ก่อนประธานาธิบดีสหรัฐฯ บารัค โอบามา เยือนอิสราเอลสัปดาห์หน้า สวนทางกับสอลล์สตรีทที่ปิดลบครั้งแรกในรอบ 10 วัน จากแรงฉุดของข้อมูลความเชื่อมั่นผู้บริโภค ปัจจัยนี้กัดเซาะดอลลาร์อ่อนค่าลงและผลักให้ทองคำบวกเล็กน้อย
สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนเมษายน เพิ่มขึ้น 42 เซ็นต์ ปิดที่ 93.45 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคม เพิ่มขึ้น 86 เซ็นต์ ปิดที่ 109.82 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
กำหนดการเยือนอิสราเอลในสัปดาห์ของโอบามา ได้รับคาดหมายว่าจะเพิ่มความตึงเครียดแก่ตะวันออกกลาง ภูมิภาคแหล่งส่งออกพลังงาน ในประเด็นโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน ปัจจัยนี้ผลักให้ราคาน้ำมันวานนนี้ (15) ขยับขึ้น สวนกระแสข้อมูลทางเศรษฐกิจที่น่ากังวลของสหรัฐฯ
ผิดกับตลาดหุ้นอเมริกาวานนี้ (15) ที่ปิดในแดนลบ สิ้่นสุดการทุบสถิติสูงสุดตลอดกาลต่อเนื่องหลายวันของดัชนีดาวโจนส์ หลังตัวเลขความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯ ยังคงบ่งชี้ถึงภาวะเศรษฐกิจที่อ่อนแอของชาติมหาอำนาจแห่งนี้
ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ ลดลง 26.57 จุด (0.18 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 14,512.57 จุด ยุติการทุบสถิติสูงสุดตลอดกาลไว้ที่ 9 วันติดต่อกัน แนสแดค ลดลง 9.86 จุด (0.17 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 3,249.07 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 2.59 จุด (0.17 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,560.64 จุด
มหาวิทยาลัยมิชิแกนเปิดเผยผลสำรวจความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯ เมื่อวันศุกร์ (15) พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในช่วงต้นเดือนมีนาคม ลดลงเหลือ 71.8 จุด จาก 77.6 จุดของเดือนกุมภาพันธ์ ส่วนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดหมายไว้ และปัจจัยหลักน่าจะมาจากยอดใช้จ่ายครัวเรือนที่ชะลอตัวลงนั่นเอง
อย่างไรก็ตาม ด้วยที่ปัจจัยดังกล่าวที่ฉุดให้ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับยูโร กลับเป็นผลให้ทองคำวานนี้ (15) ขยับขึ้นเล็กน้อย เหตุโลหะเหลืองมีค่านี้มีราคาถูกลงสำหรับนักลงทุนที่ถือสกุลเงินยูโร โดยราคาทองคำตลาดโคเมกซ์ของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนเมษายน เพิ่มขึ้น 3.30 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,594.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์