xs
xsm
sm
md
lg

ผลสำรวจชี้ จำนวนมะกันชน “ไร้ศาสนา” เพิ่มสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์-ผลการศึกษาล่าสุดในสหรัฐฯโดยผู้เชี่ยวชาญด้านสังคมวิทยา จากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เบิร์กลีย์ และมหาวิทยาลัยดุ๊ก พบว่าขณะนี้จำนวนชาวอเมริกันที่ไม่นับถือศาสนาหรือความเชื่อใดๆเลยเพิ่มจำนวนสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ นับตั้งแต่มีการเก็บข้อมูลเกี่ยวกับการนับถือศาสนาในหมู่คนอเมริกันเมื่อช่วงทศวรรษที่ 1930 เป็นต้นมา

ผลสำรวจของผู้เชี่ยวชาญจากทั้ง 2 มหาวิทยาลัยพบว่านับตั้งแต่ปี ค.ศ.1990 เป็นต้นมา จำนวนชาวอเมริกันที่ไม่นับถือศาสนาหรือความเชื่อใดๆเลยได้เพิ่มขึ้นจนแตะระดับ 20 เปอร์เซ็นต์ของประชากรทั้งประเทศ แม้จำนวนประชากรผู้ไร้ศรัทธาในศาสนากลุ่มนี้เพิ่งมีสัดส่วนเพียงราว 8 เปอร์เซ็นต์เมื่อช่วงก่อนทศวรรษที่ 1990 และมีเพียงประมาณ 5 เปอร์เซ็นต์ในช่วงทศวรรษ 1930 และ 1940

ผลสำรวจยังพบว่า ชายชาวอเมริกันมีแนวโน้มที่จะไม่นับถือศาสนาหรือความเชื่อใดๆมากกว่าสตรีอเมริกันโดย 24 เปอร์เซ็นต์ของกลุ่มตัวอย่างที่เป็นผู้ชายในสหรัฐฯระบุว่าตนไม่นับถือศาสนาใดเลยส่วนในผู้หญิงมีสัดส่วนอยู่ที่ราว 16 เปอร์เซ็นต์ นอกจากนั้น กลุ่มคนผิวขาวยังเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ที่มีแนวโน้ม “สูญเสียศรัทธาในศาสนา” มากที่สุด สวนทางกับประชากรชาวแอฟริกัน-อเมริกัน และพวกที่มีเชื้อสายเม็กซิกันที่ยังคงยึดมั่นผูกติดกับศาสนา

ในส่วนของมุมมองทางด้านการเมืองนั้น ผลสำรวจล่าสุดพบว่า กลุ่มชาวอเมริกันที่มีแนวคิดทางการเมืองแบบเสรีนิยมกว่า 40 เปอร์เซ็นต์ระบุว่า ตนเองไม่มีศาสนาประจำใจ ตรงข้ามกับพวกที่มีแนวคิดแบบอนุรักษนิยมที่มีผู้ไม่นับถือศาสนาใดๆเลยเพียง 9 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น

ทั้งนี้ สาเหตุสำคัญที่ทำให้จำนวนชาวอเมริกันที่ไม่นับถือศาสนาใดๆเลยเพิ่มสูงขึ้นในช่วงหลัง ส่วนหนึ่งเป็นเพราะความคิดที่ว่า ความศรัทธาในศาสนาเป็นสิ่งที่งมงายและไม่มีคุณค่าเท่ากับการเชื่อมั่นและพึ่งพาตนเอง รวมถึงสาเหตุที่ว่า รู้สึกเสื่อมศรัทธาพวกองค์กรทางศาสนาต่างๆมักมีการแอบแฝงแสวงหาผลประโยชน์ เรียกรับทรัพย์สินเงินทอง หรือเอื้อประโยชน์แก่นักการเมือง หาได้มีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ศาสนาแต่เพียงอย่างเดียว
กำลังโหลดความคิดเห็น