เอเจนซี - ทางการเวเนซุเอลาประกาศในวันอังคาร (12 มี.ค.) จะเปิดการสอบสวนอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับข้อกล่าวอ้างที่ว่า อดีตประธานาธิบดี อูโก ชาเบซ เสียชีวิตเพราะถูกอริต่างชาติลอบวางยาพิษ อย่างไรก็ตาม ทางด้านฝ่ายค้านอดรนทนไม่ได้ โจมตีทันควันว่า นิโกลัส มาดูโร ผู้รักษาการตำแหน่งประธานาธิบดีและแคนดิเดตในนามรัฐบาล กำลังพยายามเกาะกระแสความอาลัยอาวรณ์อดีตผู้นำผู้ล่วงลับ เพื่อชัยชนะในการเลือกตั้งซึ่งจะมีขึ้นในกลางเดือนหน้า
มาดูโรประกาศว่าจะเปิดการสอบสวนข้อกล่าวอ้างดังกล่าว ซึ่งตัวชาเบซเป็นผู้หยิบยกขึ้นมาพูดเอง หลังจากที่เขาได้รับการวินิจฉัยว่า เป็นโรคมะเร็งบริเวณเชิงกรานในปี 2011 และเข้ารับการผ่าตัด 4 ครั้งก่อนเสียชีวิต โดยที่แหล่งข่าวเผยว่า เนื่องจากเนื้อร้ายได้แพร่กระจายเข้าสู่ปอด
รักษาการประธานาธิบดีเวเนซุเอลาผู้นี้กล่าวว่า ยังเร็วเกินไปที่จะฟันธงเกี่ยวกับโรคมะเร็งของชาเบซ แต่ตั้งข้อสังเกตว่าสหรัฐฯ มีห้องวิจัยที่มีประสบการณ์ในการผลิตเชื้อโรค
“ท่านประธานาธิบดีเป็นมะเร็งที่แหกกฎเกณฑ์ทั้งหมด ทุกอย่างดูเหมือนบ่งชี้ว่าศัตรูใช้เทคนิคขั้นสูงสุดเพื่อทำลายสุขภาพของท่าน
“เราต้องค้นหาความจริง สัญชาตญาณบอกเราว่าผู้บัญชาการของเราถูกลอบวางยาพิษโดยกองกำลังลึกลับที่ต้องการกำจัดท่าน” มาดูโรให้สัมภาษณ์เครือข่ายทีวีเทเลเซอร์ และเสริมว่าจะเชิญนักวิจัยต่างชาติร่วมทีมสอบสวนข้อกล่าวหานี้ด้วย
มาดูโรเปรียบเทียบข้อสงสัยการตายของชาเบซกับข้อกล่าวหาที่ว่ายัสเซอร์ อาราฟัต ผู้นำปาเลสไตน์ เสียชีวิตในปี 2004 จากการลอบวางยาพิษของสายลับอิสราเอล
นอกจากนั้น เรื่องนี้ยังเป็นภาพสะท้อนให้เห็นความพยายามอย่างยาวนานของตัวชาเบซ ซึ่งต้องการโน้มน้าวให้โลกเชื่อว่า ไซมอน โบลิวาร์ วีรบุรุษผู้ปลดปล่อยเวเนซุเอลาจากจักรวรรดินิยมสเปน เสียชีวิตจากการลอบวางยาพิษของศัตรูในโคลอมเบียในปี 1830
มาดูโรนั้นเป็นทายาทการเมืองที่ชาเบซเลือกเองกับมือ และเป็นผู้สมัครในนามฝ่ายรัฐบาลในการเลือกตั้งประธานาธิบดีที่จัดขึ้นก่อนกำหนดในวันที่ 14 เดือนหน้า เนื่องจากการถึงแก่อสัญกรรมของชาเบซ
ทางด้านฝ่ายค้านโจมตีว่า มาดูโรกำลังพยายามทำให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งยังคงใจจดจ่ออยู่กับชาเบซ เพื่อเกาะกระแสความอาลัยอาวรณ์ที่ผู้สนับสนุนนับล้านมีต่ออดีตผู้นำ
ฝ่ายค้านยังมองข้อกล่าวหาเรื่องศัตรูต่างชาติลอบวางยาพิษว่า เป็นเพียงทฤษฎีสมรู้ร่วมคิดสไตล์ชาเบซขนานแท้ ที่มุ่งโหมกระพือความหวาดกลัวภัยคุกคามของนายทุนจักรวรรดินิยมที่มีต่อระบบสังคมนิยมของเวเนซุเอลา และหันเหความสนใจของประชาชนออกจากปัญหาภายในประเทศที่พวกเขาต้องเผชิญอยู่ในชีวิตประจำวัน
การรณรงค์หาเสียงของฝ่ายค้านในเวลานี้ เน้นการวาดภาพมาดูโร อดีตคนขับรถเมล์ที่ปัจจุบันอายุ 50 ปี ว่าไร้ความสามารถ จ้องแต่แสวงหาผลประโยชน์จากการตายของชาเบซ
ในการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนผู้มีสิทธิออกเสียงก่อนหน้าการอสัญกรรมของชาเบซ พบว่ามาดูโรมีคะแนนนำเฮนริเก คาพริเลส ผู้สมัครจากแนวร่วมฝ่ายค้านกว่า 10% และหากย้อนกลับไปในการเลือกตั้งเดือนตุลาคมปีที่แล้ว ผู้นำฝ่ายค้านผู้นี้พ่ายแพ้ชาเบซอยู่ 11%