รอยเตอร์ - เกิดเหตุคนร้ายกดระเบิดฆ่าตัวตายหน้าประตูทางเข้ากระทรวงกลาโหมในกรุงคาบูลของอัฟกานิสถาน วันนี้ (9) ทำให้มีพลเรือนเสียชีวิต 9 ราย ในเวลาเดียวกับที่ ชัค เฮเกล รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯคนใหม่เดินทางเยือนอัฟกานิสถาน ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นยังสะท้อนวิกฤตความมั่นคงในอัฟกานิสถานที่ยังไม่คลี่คลายลง ขณะที่ทหารนาโตจะถอนกำลังออกไปจนหมดภายในสิ้นปี 2014
โฆษกกองกำลังสนับสนุนความมั่นคงนานาชาติ (ISAF) ยืนยันว่า ขณะเกิดเหตุนายใหญ่เพนตากอนอยู่ที่ฐานทัพนาโต และไม่เสี่ยงอันตรายแต่อย่างใด
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหมอัฟกัน เปิดเผยว่าเหตุระเบิดฆ่าตัวตายซึ่งคนร้ายใช้รถจักรยานเป็นพาหนะคร่าชีวิตพลเรือนไปทั้งหมด 9 คน และอีก 14 คนได้รับบาดเจ็บ
ถนนรอบกระทรวงกลาโหมซึ่งตั้งอยู่ใกล้ทำเนียบประธานาธิบดีถูกสั่งปิดการจราจร เพื่อให้เจ้าหน้าที่เข้าเก็บกวาดความเสียหายและชำระล้างเลือดที่เจิ่งนองบนถนน ส่วนที่กำแพงกระทรวงก็เต็มไปด้วยร่องรอยของสะเก็ดระเบิด
กลุ่มติดอาวุธตอลิบานออกมาอ้างความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์นี้ พร้อมยืนยันว่า เป้าหมายในการโจมตีคือกระทรวงกลาโหม เพื่อเป็นการ “ส่งสัญญาณบางอย่าง” ให้กับ เฮเกล ที่เพิ่งเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯหมาดๆ และเดินทางเยือนอัฟกานิสถานเป็นชาติแรกเมื่อวานนี้(8)
เจ้าหน้าที่สหรัฐฯเผยว่า เมื่อทราบข่าวเหตุระเบิดที่กระทรวงกลาโหม เฮเกล และคณะจึงเดินทางออกจากห้องสรุปรายงานภายในฐานทัพนาโตแห่งหนึ่ง และบินตรงไปยังฐานทัพอากาศบาแกรมใกล้กรุงคาบูล เพื่อร่วมประชุมลับกับเหล่าผู้บัญชาการทหารทันที
รายงานระบุด้วยว่า เสียงระเบิดนั้นดังไปถึงห้องที่นักข่าวซึ่งเดินทางไปพร้อมกับ เฮเกล กำลังรับฟังการสรุปรายงานอยู่
รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯมีกำหนดการพบปะและหารือกับประธานาธิบดี ฮามิด คาร์ไซแห่งอัฟกานิสถาน ซึ่งเมื่อไม่นานนี้ได้ออกคำสั่งจำกัดกิจกรรมทางทหารของสหรัฐฯ อันสะท้อนให้เห็นถึงความสัมพันธ์ที่ไม่ราบรื่นนักระหว่างเจ้าบ้านกับทหารอเมริกันราว 66,000 นายที่ยังประจำการอยู่ที่นั่น