เอเอฟพี - วุฒิสภาสหรัฐฯ มีมติรับรอง ชัค เฮเกล เป็นรัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ คนใหม่อย่างเป็นทางการ วานนี้ (26) หลังจากที่มีการถกเถียงเรื่องคุณสมบัติของอดีต ส.ว.ผู้นี้มานานหลายสัปดาห์
วุฒิสภาสหรัฐฯ มีมติ 58-41 เสียงรับรองอดีต ส.ว.รีพับลิกันและนายทหารผู้ผ่านสงครามเวียดนามเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการกลาโหมแทนที่ เลียน เพเนตตา ที่หมดวาระลง โดยคาดว่า เฮเกล วัย 66 ปี จะเข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งนายใหญ่เพนตากอน ภายในวันนี้ (27)
ประธานาธิบดีโอบามากล่าวชื่นชม “การรับรองจากทั้ง 2 พรรค” ที่ช่วยให้เขาได้มี “รัฐมนตรีกลาโหมซึ่งประเทศชาติต้องการ และผู้นำที่คู่ควรกับกองทัพ”
“ผมจะรับฟังการตัดสินใจและข้อชี้แนะของ ชัค ในการที่เราจะยุติสงครามอัฟกานิสถาน, นำทหารอเมริกันกลับบ้าน, เตรียมพร้อมรับภัยคุกคามต่างๆ รวมถึงบำรุงรักษากองทัพของเราให้เป็นหน่วยรบที่มีแสนยานุภาพมากที่สุดในโลก”
กระบวนการแต่งตั้งเฮเกลต้องล่าช้าไปกว่ากำหนด เนื่องจาก ส.ว.รีพับลิกัน หลายคนเรียกร้องให้มีการตรวจสอบทรัพย์สิน และบทสุนทรพจน์ที่เฮเกลเคยกล่าวต่อองค์กรระหว่างประเทศต่างๆ เสียก่อน
เฮเกล เคยถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักระหว่างกระบวนการโหวตรับรองในคณะกรรมธิการวุฒิสภา จนกระทั่ง ส.ว.จอห์น แม็กเคน ซึ่งเป็นอดีตนายทหารผู้ผ่านสงครามเวียดนามเช่นกัน ต้องออกปากเตือนเพื่อนสมาชิกรีพับลิกันว่า ไม่ควรติเตียนความรักชาติของ “ชายผู้มีเกียรติ” คนนี้
เฮเกลกล่าวว่า ตนรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้รับการรับรองจากวุฒิสภาให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกลาโหม และพร้อมที่จะหลีกเลี่ยงข้อขัดแย้งทางการเมืองต่างๆ
“ผมจะปฏิบัติหน้าที่ร่วมกับคองเกรสอย่างใกล้ชิด เพื่อให้แน่ใจว่าเราจะยังมีกองทัพที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก และสามารถปกป้องชาติที่ยิ่งใหญ่นี้ไว้ได้” เฮเกลระบุในแถลงการณ์
พรรคเดโมแครตชี้ว่า ความล่าช้าในการแต่งตั้งรัฐมนตรีกลาโหมอาจบั่นทอนความพร้อมและความน่าเชื่อถือของกองทัพสหรัฐฯ ท่ามกลางความตึงเครียดในตะวันออกกลาง, ปัญหานิวเคลียร์อิหร่าน และการทดลองระเบิดนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ
อย่างไรก็ดี ปัญหาใหญ่ที่เฮเกลต้องเตรียมรับมือทันทีก็คือ มาตรการตัดลดงบประมาณ 85,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯซึ่งกำลังจะมีผลบังคับในวันศุกร์ (1) ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางทหาร และอาจทำให้เจ้าหน้าที่พลเรือนของกระทรวงกลาโหมราว 800,000 ตำแหน่งต้องถูกลอยแพในที่สุด
แม้จะมีประวัติสวยหรูจากสงครามเวียดนาม แต่จุดยืนที่ผ่านๆ มาของเฮเกล ซึ่งไม่สนับสนุนการใช้ความรุนแรงกับอิหร่าน และไม่กระตื้อรือร้นที่จะหนุนหลังอิสราเอลเท่าที่ควร ก็ทำให้ ส.ว.รีพับลิกันบางคนเห็นว่าเขาไม่เหมาะที่จะดำรงตำแหน่งผู้นำเพนตากอน
ส.ว.แดน โคตส์ ถึงกับเคยออกปากว่า คำขู่ของสหรัฐฯ ที่จะใช้ปฏิบัติการทางทหารเข้ายับยั้งอิหร่านหากพวกเขายังมุ่งพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ “จะมีความน่าเชื่อถือเป็นศูนย์ทันที หาก ชัค เฮเกล เป็นรัฐมนตรีกลาโหม”