รอยเตอร์ - กองทัพมาเลเซียยังคงติดตามไล่ล่ากลุ่มติดอาวุธฟิลิปปินส์ที่บุกยึดเมืองบนเกาะบอร์เนียว หลังปฏิบัติการกวาดล้างด้วยเครื่องบินขับไล่, ปืน และทหารอีกหลายร้อยนาย เมื่อวานนี้(5) ไม่ประสบผลสำเร็จ
วิกฤตความมั่นคงที่ร้ายแรงที่สุดสำหรับมาเลเซียในรอบหลายปีเริ่มปะทุขึ้นราว 1 เดือนก่อน เมื่อกลุ่มติดอาวุธซึ่งเป็นสมุนของ ญามาลุล กิราม ที่ 3 ผู้อ้างตนเป็นสุลต่านแห่งซูลู ล่องเรือมาขึ้นฝั่งตอนเหนือสุดของเกาะบอร์เนียว เพื่อทวงคืนอธิปไตยเหนือรัฐซาบาห์
การปะทะระหว่างกลุ่มติดอาวุธกับเจ้าหน้าที่มาเลเซียตั้งแต่วันศุกร์ที่แล้ว (1) ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตไปอย่างน้อย 27 ราย และสร้างความหวั่นวิตกว่าปัญหาความมั่นคงครั้งนี้อาจลุกลามใหญ่โตจนกระทบถึงการเลือกตั้งทั่วไปในมาเลเซียซึ่งจะมีขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
ตำรวจมาเลเซียระบุว่า มีกลุ่มติดอาวุธถูกทางการยิงไป 1 คนวันนี้ (6) แต่ยังไม่ทราบว่าเสียชีวิตหรือไม่ พร้อมเตือนให้ชาวบ้านระวังอันตรายจากสมาชิกกลุ่มติดอาวุธรายอื่นๆ ที่อาจหลบหนีไปซ่อนตัวอยู่ตามสวนปาล์มน้ำมันริมชายฝั่ง หรือปลอมตัวเป็นเกษตรกรท้องถิ่น
“การตรวจค้นบ้านเรือนเพื่อไล่ล่ากลุ่มติดอาวุธจะต้องกินพื้นที่กว้างขวางขึ้น เพราะมีเบาะแสว่า พวกเขาน่าจะย้ายไปหลบซ่อนที่อื่นแล้ว” อิสมาอีล โอมาร์ จเรตำรวจมาเลเซียให้สัมภาษณ์
รถบรรทุกทหารหลายสิบนายยังคงทยอยเข้าไปตรวจค้นหมู่บ้านตันดูโอซึ่งเป็นแหล่งกบดานเดิมของกลุ่มติดอาวุธ โดยมีเฮลิคอปเตอร์คอยบินสำรวจอยู่ด้านบน
เครื่องบินขับไล่มาเลเซียทิ้งระเบิดใส่ที่หลบซ่อนของกลุ่มติดอาวุธภายในสวนปาล์มเมือง เฟลดา ซาฮาบัต เมื่อช่วงเช้าวานนี้ (5) หลังนายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัค มีคำสั่งให้ทหารลงมือกวาดล้างผู้บุกรุกทันที ขณะที่เจ้าหน้าที่ฟิลิปปินส์ก็เรียกร้องให้กลุ่มติดอาวุธซึ่งน่าจะมีอยู่ราวๆ 200 คนเดินทางกลับบ้าน
นักรบกลุ่มนี้อ้างว่าเป็นตัวแทนรัฐสุลต่านแห่งซูลูทางตอนใต้ของฟิลิปปินส์ ซึ่งเคยเรืองอำนาจเมื่อราวร้อยปีก่อน ทั้งยังเรียกร้องให้มาเลเซียคืนกรรมสิทธิ์เหนือรัฐซาบาห์ และจ่ายเงินชดเชยตามสัญญาเช่าที่อังกฤษทำไว้ตั้งแต่ยุคอาณานิคม
พันธมิตรของทายาทสุลต่านแห่งซูลูในมะนิลาเปิดเผยว่า กลุ่มติดอาวุธภายใต้การนำของราจา มูดา อัฆบิมุดดิน กิราม ซึ่งเป็นน้องชายของญามาลุล กิราม ที่ 3 แยกกันทำงานเพื่อมิให้ถูกจับได้
ครอบครัวทายาทสุลต่านแห่งซูลูยังอ้างด้วยว่า สาวกอีกจำนวนหนึ่งเดินทางเข้าไปเสริมกำลังกลุ่มติดอาวุธในมาเลเซียแล้ว ซึ่งการเดินทางข้ามทะเลระหว่าง 2 ประเทศด้วยเรือเร็วกินเวลาเพียงราวๆ 1 ชั่วโมง
ทางการมาเลเซียยืนยันวานนี้ (5) ว่า ไม่มีเจ้าหน้าที่ความมั่นคงได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากการกวาดล้างกลุ่มติดอาวุธ ส่วนพันธมิตรของกลุ่มนักรบในฟิลิปปินส์ก็อ้างว่า คนของพวกเขาส่วนใหญ่ยังปลอดภัยดีและจะไม่ยอมจำนนง่ายๆ
วิกฤตความมั่นคงครั้งนี้อาจบีบให้นายกรัฐมนตรี ราซัค ต้องเลื่อนการเลือกตั้งซึ่งจะมีขึ้นภายในเดือนมิถุนายนนี้ออกไปก่อน และหากสถานการณ์ยืดเยื้อก็อาจกระทบความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่จะเข้าไปแสวงผลกำไรจากโครงการพลังงานและโครงสร้างพื้นฐานในรัฐซาบาห์ รวมไปถึงการดำเนินงานของอุตสาหกรรมปาล์มน้ำมันขนาดใหญ่ที่นั่น