เอเอฟพี/เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์-ทางการปากีสถานจำต้องประกาศปิดเมืองการาจี ที่เป็นเมืองใหญ่ที่สุดของประเทศในวันจันทร์ (4) เพื่อไว้อาลัยให้กับผู้ที่ถูกสังหารจำนวน 45 คนจากเหตุโจมตีด้วยการระเบิดรถยนต์ในย่านที่อยู่อาศัยของชาวมุสลิมนิกายชีอะห์ ซึ่งเป็นหนึ่งในเหตุโจมตีที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในประเทศ
รายงานข่าวระบุว่า สถาบันการศึกษา ธุรกิจห้างร้าน และตลาด ต่างปิดทำการในวันจันทร์ (4) หลังจากที่รัฐบาลท้องถิ่นประกาศปิดเมืองการาจีเป็นเวลา 1 วันเพื่อไว้ทุกข์ แก่ผู้เสียชีวิตจากการโจมตีครั้งล่าสุดที่เกิดขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ (3) ที่ผ่านมา ขณะที่ชุมชนชาวมุสลิมนิกายชีอะห์ประกาศจะจัดพิธีไว้ทุกข์แก่ผู้เสียชีวิตเป็นเวลา 3 วัน
การโจมตีด้วยระเบิดที่ซุกซ่อนไว้ในรถยนต์คันหนึ่งเมื่อวันอาทิตย์ (3)เกิดขึ้นในขณะที่บรรดาชาวมุสลิมชีอะห์จำนวนมากพากันเดินออกมาจากมัสยิด หลังเสร็จสิ้นการประกอบกิจกรรมทางศาสนา เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 45 ราย และทำให้เกิดความเสียหายแก่พื้นที่ใกล้เคียง โดยเป็นที่คาดกันว่ากลุ่มหัวรุนแรงของพวกมุสลิมนิกายซุนนีที่ชื่อว่า“ลัชการ์ อี จังวี” อาจอยู่เบื้องหลังเหตุโจมตีครั้งนี้ เนื่องจากกลุ่มดังกล่าวเคยก่อเหตุโจมตีเป้าหมายที่เป็นชาวชีอะห์หลายครั้ง ในหลายเมืองของปากีสถาน รวมถึงที่เมืองเก็ตตา
ขณะที่บรรดากลุ่มเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชนและชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ ต่างออกมากล่าวตำหนิทางการปากีสถานที่ล้มเหลวอย่างสิ้นเชิงในการยุติเหตุฆาตกรรม และการโจมตีด้วยระเบิดจากฝีมือของพวกหัวรุนแรงทางศาสนา รวมถึง ความไร้ประสิทธิภาพของเจ้าหน้าที่ในการติดตามจับตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษตามกฏหมาย
ทั้งนี้ นครการาจี ถือเป็นพื้นที่ที่มีความสำคัญอย่างยิ่งยวดต่อเศรษฐกิจของปากีสถาน จากการที่เมืองแห่งนี้เป็นแหล่งสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจคิดเป็นสัดส่วนถึงร้อยละ 42 ของประเทศและเป็นที่มาของภาษีเงินได้กว่าร้อยละ 70 ของปากีสถาน แต่ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา นครการาจีที่เป็นบ้านของประชากรมากกว่า 21 ล้านคนแห่งนี้กลับตกเป็นเป้าหมายของการโจมตีและเหตุรุนแรง ส่งผลให้เฉพาะปีที่แล้วเพียงปีเดียวมีผู้เสียชีวิตไปมากกว่า 2,200 คน