xs
xsm
sm
md
lg

อีก 5 วันต้องลด “งบรายจ่าย” อัตโนมัติ แต่รัฐสภามะกันยังไม่เลิกสาดโคลน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

(แฟ้มภาพ)สภาคองเกรสสหรัฐฯ
เอเจนซีส์ - สมาชิกรัฐสภาสหรัฐฯ ยังไม่มีวี่แววตกลงกันได้ แม้เหลือเวลาอีกเพียง 5 วันก่อนที่มาตรการตัดลดรายจ่ายอย่างมโหฬารโดยอัตโนมัติจะเริ่มมีผลบังคับ ทั้งนี้ขณะที่เกือบทุกฝ่ายยอมรับว่า มาตรการเช่นนี้จะส่งผลรุนแรงต่อเศรษฐกิจของประเทศที่ยังกระปลกกระเปลี้ย ทว่า เดโมแครตกับรีพับลิกันยังคงตั้งหน้าตั้งตาสาดโคลนใส่กันไม่เลิก

การตัดลดงบประมาณรายจ่ายอย่างเหมารวมโดยอัตโนมัติ หรือที่เรียกขานกันว่า Sequester ตั้งแต่วันที่ 1 เดือนหน้า ตามที่รัฐสภาสหรัฐฯ ได้เคยตกลงกันไว้ในคราวการอภิปรายร่างงบประมาณเมื่อปี 2011 นั้น มีจุดมุ่งหมายเพื่อบีบให้คองเกรสหาทางเลือกที่น่าพอใจยิ่งขึ้น มากกว่าประสงค์จะให้มีการปฏิบัติตามจริงๆ ทว่า จวบจนถึงวันอาทิตย์ (24) ก็ยังคงไม่มีสัญญาณความคืบหน้าแต่อย่างใดว่า พรรคเดโมแครตที่เป็นฝ่ายบริหาร และมีเสียงข้างมากในวุฒิสภา กับพรรครีพับลิกันซึ่งคุมสภาผู้แทนราษฎร จะสามารถประนีประนอมกันและผ่านกฎหมายใหม่ๆ ออกมาใช้แทนที่มาตรการ Sequester

แดน ไฟเซอร์ ที่ปรึกษาอาวุโสของทำเนียบขาวแถลงโจมตีรีพับลิกันว่า ถ้าซีเควสเตอร์มีผลบังคับใช้ก็เป็นเพราะรีพับลิกันเลือกให้เป็นแบบนั้น ทั้งที่สามารถหาทางออกเรื่องนี้ได้ด้วยการยอมประนีประนอมและใช้สามัญสำนึกเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

พร้อมกันนี้ทำเนียบขาวยังออกรายงานแจงว่า มาตรการนี้จะส่งผลกระทบอย่างไรในแต่ละมลรัฐ เป็นต้นว่า การลอยแพครูนับพันนับหมื่นตำแหน่ง การลดเงินเดือนเจ้าหน้าที่พลเรือนในกระทรวงกลาโหม การลดงบวิจัยทางการแพทย์ การลดการตรวจสอบอาหาร และความล่าช้าในการเดินทางตามสนามบินใหญ่ๆ

นอกจากนั้น การตัดลดงบประมาณรายจ่ายสาธารณะจำนวนมาก ยังน่าจะส่งผลฉุดการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่เชื่องช้าอยู่แล้ว โดยสำนักงานงบประมาณรัฐสภา ซึ่งถือเป็นองค์กรที่ไม่ฝักใฝ่พรรคใดประเมินว่า ซีเควสเตอร์จะลดทอนการเติบโตในปีปัจจุบันลง 0.6% ขณะที่ไบพาร์ทิซัน โพลิซี เซ็นเตอร์ กลุ่มคลังสมองในวอชิงตันคาดว่า จะทำให้มีการจ้างงานในสหรัฐฯ ลดลง 1 ล้านตำแหน่ง

เจสัน เฟอร์แมน นักเศรษฐศาสตร์ประจำทำเนียบขาวเผยว่า ประธานาธิบดีบารัค โอบามา และเฮนรี รีด ผู้นำเสียงข้างมากของเดโมแครตในวุฒิสภา จะยังคงผลักดันข้อตกลงด้วย “แนวทางที่สมดุล” ที่จะช่วยป้องกันวิกฤตล่าสุดและซื้อเวลาสำหรับข้อตกลงระยะยาว

ทว่า จอห์น แมกเคน วุฒิสมาชิกรีพับลิกัน กล่าวหาว่าโอบามาและเดโมแครตล้มเหลวในการเปิดเจรจาอย่างจริงจังเพื่อหาทางประนีประนอม

รีพับลิกันนั้นโดยหลักการแล้วต้องการรัฐบาลที่มีขนาดเล็กลงและลดงบประมาณรายจ่าย แต่ก็เรียกร้องแนวทางที่ยืดหยุ่นขึ้น และแสดงความไม่พอใจที่ซีเควสเตอร์จะส่งผลโดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อกิจการกลาโหม

ปัจจุบัน เพนตากอนว่าจ้างพลเรือน 800,000 คนที่อาจถูกพักงานจากมาตรการนี้ นอกจากนั้นยังเป็นผู้จ่ายเงินนนับหมื่นๆ ล้านดอลลาร์ให้แก่พวกบริษัทพลเรือนที่ทำสัญญาจัดซื้อจัดจ้างกับทางกระทรวง

ไมค์ โรเจอร์ส ประธานคณะกรรมาธิการข่าวกรองสภาผู้แทนราษฎรชี้ว่า ปฏิบัติการข่าวกรองก็อาจชะลอลงหรือถูกระงับเช่นกัน ซึ่งถือเป็นปัญหาสำหรับประเทศ

ทั้งนี้ ในวันจันทร์ (25) วุฒิสมาชิกเดโมแครตจะหารือกันเกี่ยวกับแผนการอุดช่องโหว่ทางภาษีที่เอื้อประโยชน์แก่คนรวย เพื่อเป็นวิธีในการลดการขาดดุลงบประมาณ ทว่า รีพับลิกันซึ่งลังเลอยู่แล้วในการสนับสนุนการขึ้นภาษีเศรษฐีระหว่างวิกฤตหน้าผาการคลังช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา จึงยังคงคัดค้านมาตรการเพิ่มรายได้ใหม่ๆ

สมาชิกรีพับลิกันบางคนมองว่า ซีเควสเตอร์เป็นวิธีเดียวในการบีบให้โอบามายอมรับการลดงบประมารายจ่ายโดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกสวัสดิการสังคมต่างๆ ซึ่งพวกรีพับลิกันวิจารณ์ว่าสิ้นเปลืองและไร้ประโยชน์ ขณะเดียวกันพวกเขาก็วิจารณ์ว่า “แนวทางสมดุล” ที่ประธานาธิบดีหาเสียงไว้ เน้นที่การขึ้นภาษีและเพิ่มการใช้จ่ายเท่านั้น

บ็อบบี้ จินดัล ผู้ว่าการรัฐลุยเซียนาที่เป็นสมาชิกพรรครีพับลิกัน ยังโจมตีรายงานเตือนของทำเนียบขาวว่า “ใส่ไข่เกินจริง”

ขณะที่ไมเคิล สตีล โฆษกของจอห์น โบห์เนอร์ ประธานสภาผู้แทนราษฎรซึ่งเป็นรีพับลิกัน เยาะเย้ยว่า ทำเนียบขาวควรเอาเวลาที่ใช้แจกแจงผลลบของมาตรการซีเควสเตอร์แก่สื่อต่างๆ ไปหาทางหยุดยั้งมาตรการนี้มากกว่า

รีพับลิกันยังชี้ว่า กลไกซีเควสเตอร์เป็นความคิดของโอบามาตั้งแต่ต้น
กำลังโหลดความคิดเห็น