เอเอฟพี - ประธานาธิบดี ฮามิด คาร์ไซ ของอัฟกานิสถานมีคำสั่งให้กองกำลังพิเศษของสหรัฐฯ ออกจากพื้นที่ยุทธศาสตร์ในจังหวัดวาร์ดัก โดยเป็นการเน้นให้ถึงความต้องการของเขาในการควบคุมดูแลกลุ่มติดอาวุธ และตอกย้ำความตึงเครียดเกี่ยวกับหน้าที่ความรับผิดชอบ ขณะที่กองกำลังนาโตเตรียมถอนทัพออกจากประเทศ
ผู้นำอัฟกันมีคำสั่งในวันอาทิตย์ (24) ให้กองกำลังพิเศษของอเมริกันถอนทัพออกไปจากจังหวัดวาร์ดัก ภายใน 2 สัปดาห์ โดยกล่าวหาว่า กลุ่มติดอาวุธอัฟกันที่พวกเขาร่วมทำงานด้วยนั้น ก่อเหตุทรมาน และฆาตกรรม ซึ่งยิ่งกระตุ้นให้ชาวบ้านในท้องที่เกิดความเกลียดชัง
ด้านกองทัพสหรัฐฯ ชี้ว่า จะเร่งหารือกับเจ้าหน้าที่ของอัฟกานิสถาน และถือว่าข้อกล่าวหาเกี่ยวกับการประพฤติไม่เหมาะสมนี้เป็นเรื่องร้ายแรง
จังหวัดวาร์ดักเป็นจุดที่มีปัญหาอย่างล้ำลึก ซึ่งกลุ่มตอลิบานเคยยิงสอยเฮลิคอปเตอร์ชีนุกร่วงในเดือนสิงหาคม ปี 2011 ทำให้ชาวอัฟกันเสียชีวิต 8 ราย และชาวอเมริกันอีกร่วม 30 คน ถือเป็นเหตุการณ์เดี่ยวที่นองเลือดที่สุดซึ่งเกิดกับทหารอเมริกัน นับตั้งแต่เริ่มสงครามมา
หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์ อ้างเจ้าหน้าที่อัฟกัน รายงานว่า คำสั่งขับไล่หน่วยพิเศษของสหรัฐฯ ดังกล่าวเป็นความพยายามสุดท้าย หลังจากพวกเขาพยายามขอความร่วมมือในการสอบสวนข้อกล่าวหาเกี่ยวกับการฆาตกรรม และทรมาน แต่ล้มเหลว
ขณะที่ประธานาธิบดี คาร์ไซ ระบุว่า การตัดสินใจของเขานั้นมีสาเหตุมาจาก กลุ่มติดอาวุธที่ร่วมงานกับกองกำลังพิเศษของสหรัฐฯ มีส่วนพัวพันในการก่อกวน สร้างความวุ่นวาย ทรมาน และแม้แต่สังหารผู้บริสุทธิ์ โดยยกตัวอย่างกรณีนักศึกษารายหนึ่ง ซึ่งออกจากบ้านในยามวิกาล โดย 2 วันต่อมาถูกพบเป็นศพ ที่มีร่องรอยว่าถูกทรมาน และปาดคออย่างน่าสยดสยอง
อย่างไรก็ตาม ทางการคาบูลไม่ได้ระบุชัดเจนว่ากลุ่มติดอาวุธใดอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์เหล่านั้น แต่เป็นที่ทราบกันดีว่า สหรัฐฯ ให้การฝึกฝนกลุ่มติดอาวุธท้องถิ่นมากหน้าหลายตา และอยู่นอกเหนือการควบคุมของรัฐบาลอัฟกานิสถาน
นักวิเคราะห์ชี้ว่า คำสั่งขับไล่ดังกล่าวเป็นการตอกย้ำความไม่เชื่อมั่นในกองทัพนานาชาติที่นำโดยสหรัฐฯ ของคาบูลที่นับวันจะยิ่งมากขึ้น ทั้งยังแสดงถึงความต้องการในการควบคุมกองกำลังติดอาวุธในท้องถิ่น ซึ่งทหารอเมริกันให้การฝึกฝนเพื่อทำสงครามต่อต้านกลุ่มตอลิบาน ด้วยตัวเอง