เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - โฆษกกระทรวงมหาดไทยอัฟกานิสถานเผย ตำรวจหญิงอัฟกันที่ก่อเหตุสังหารที่ปรึกษาด้านความมั่นคงชาวอเมริกันในกรุงคาบูลเมื่อวันจันทร์ (24) แท้จริงแล้วมีเชื้อสายอิหร่าน และมีสภาพจิตไม่ค่อยปกติ
รายงานซึ่งอ้างเซดิก เซดิกิโฆษกกระทรวงมหาดไทยอัฟกานิสถานระบุว่า ตำรวจหญิงวัยประมาณ 30 ปีที่ลงมือก่อเหตุสะเทือนขวัญดังกล่าวมีชื่อสั้นๆ ว่า “นาร์กาส” และพบหลักฐานว่าเธอเป็นพลเมืองอิหร่านซึ่งถือกำเนิดในกรุงเตหะราน แต่ต่อมาได้แต่งงานกับชายชาวอัฟกันและอพยพมาอาศัยอยู่ในอัฟกานิสถานตั้งแต่ 10 ปีก่อน หลังจากที่สามีของเธอจัดหาเอกสารประจำตัวปลอมให้เพื่อสวมรอยว่าเธอเป็นพลเมืองอัฟกานิสถาน
คำแถลงของกระทรวงมหาดไทยอัฟกานิสถานยังระบุว่า นาร์กาสซึ่งเป็นคุณแม่ลูกสี่ ได้สมัครเข้าร่วมกองกำลังตำรวจอัฟกันเมื่อ 5 ปีที่แล้ว และเคยปฏิบัติหน้าที่ในหลายตำแหน่ง ทั้งยังมีประวัติที่ขาวสะอาด แต่มีรายงานที่ยืนยันว่านาร์กาสมีสภาพจิตที่ไม่ปกตินัก และมีพฤติกรรมที่ไม่อยู่กับร่องกับรอย
อย่างไรก็ดี ผลการสอบสวนเบื้องต้นยังไม่พบความเชื่อมโยงใดๆ ระหว่างนาร์กาสกับบรรดากลุ่มติดอาวุธหัวรุนแรงต่างๆ มีเพียงการตรวจพบหนังสือเดินทางอิหร่านในที่พักของเธอเท่านั้น
ขณะเดียวกันมีการยืนยันว่า เหยื่อกระสุนของตำรวจหญิงเชื้อสายอิหร่านรายนี้ คือ โจเซฟ กริฟฟิน วัย 49 ปี จากเมืองแมนส์ฟิลด์ มลรัฐจอร์เจีย ซึ่งเคยเป็นทหารผ่านศึกผู้มีประสบการณ์ในกองทัพสหรัฐฯ และอยู่ระหว่างเดินทางไปทำหน้าที่ที่ปรึกษาในการฝึกอบรมกองกำลังตำรวจอัฟกัน โดยการเสียชีวิตของกริฟฟินถือเป็นการโจมตีโดย “คนวงใน” ครั้งแรกที่ผู้ก่อเหตุเป็นหญิง
ทั้งนี้ ความขัดแย้งในอัฟกานิสถานทำให้การโจมตีโดยคนวงในเพิ่มจำนวนขึ้น โดยเฉพาะในปีนี้เพียงปีเดียวมีกำลังพลต่างชาติในสังกัดกองกำลังองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ในอัฟกานิสถานไม่ต่ำกว่า 52 รายถูกสังหารโดยเพื่อนร่วมงานในกองทัพ หรือกองกำลังตำรวจอัฟกัน