เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติสหรัฐฯ (ซีดีซี) เผยผลการศึกษาล่าสุดที่ระบุว่า จำนวนผู้เสียชีวิตที่มีสาเหตุเกี่ยวข้องกับการใช้อาวุธปืนในสหรัฐฯ จะขยับแซงหน้าการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนนเป็นครั้งแรกภายในปี 2015
ข้อมูลของซีดีซี ซึ่งมีฐานอยู่ที่มลรัฐจอร์เจียของสหรัฐฯ ระบุว่า สถิติการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนนได้ลดลงกว่า 22 เปอร์เซ็นต์ ระหว่างปี 2005-2010 แต่การเสียชีวิตที่เกี่ยวข้องกับอาวุธปืนในสหรัฐฯ กลับพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และหากแนวโน้มยังเป็นเช่นนี้อยู่ต่อไป จะส่งผลให้ การเสียชีวิตจากอาวุธปืนในสหรัฐฯ จะพุ่งแซงหน้าการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุภายในปี 2015
การประเมินของซีดีซีคาดว่า เมื่อถึงปี 2015 จำนวนผู้เสียชีวิตโดยเฉลี่ยจากเหตุรุนแรงที่เกี่ยวข้องกับอาวุธปืนในอเมริกาจะเพิ่มเป็นเกือบ 33,000 ราย ขณะที่การเสียชีวิตบนท้องถนนจะลดลงเหลือประมาณ 32,000 รายซึ่งหมายความว่า การเสียชีวิตจากอาวุธปืนจะกลายเป็นสาเหตุที่คร่าชีวิตคนอเมริกันมากที่สุดเป็นครั้งแรก เป็นการสะท้อนถึงปัญหาความรุนแรงในสังคมที่ทวีความซับซ้อนขึ้นทุกขณะ ท่ามกลางการโต้เถียงของหลายฝ่ายต่อความเหมาะสมในการควบคุมอาวุธปืนในสหรัฐฯ
การเปิดเผยข้อมูลล่าสุดของซีดีซีมีขึ้นในขณะที่ชาวอเมริกันทั้งประเทศกำลังตกอยู่ในห้วงแห่งความโศกเศร้า หลังเกิดเหตุคนร้ายวัยรุ่นบุกกราดยิงที่โรงเรียนประถมศึกษา “แซนดี ฮุก” ในเมืองนิวทาวน์ มลรัฐคอนเนตทิคัต เมื่อวันที่ 14 ธันวาคมที่ผ่านมา เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตเกือบ 30 รายซึ่งเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายส่วนใหญ่เป็นเด็ก
ทั้งนี้ ข้อมูลของทางการสหรัฐฯ ระบุว่าจะมีชาวอเมริกันเสียชีวิตเพราะอาวุธปืนราว 85 คนในทุกๆ 24 ชั่วโมง โดยในจำนวนดังกล่าวราว 53 คนจะเป็นการใช้ปืนฆ่าตัวตาย
