รอยเตอร์/เอเอฟพี/เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - สำนักข่าวอิตาร์-ทาสส์ของรัสเซีย รายงานโดยอ้างคำกล่าวของวาลิด อัล มูอาเลม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของซีเรีย ที่เปิดเผยในวันจันทร์ (25) ว่า รัฐบาลดามัสกัสภายใต้การนำของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล อัสซาด พร้อมเปิดการเจรจากับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ไม่เว้นแม้แต่กองกำลังติดอาวุธของฝ่ายต่อต้าน เพื่อยุติความรุนแรงและการนองเลือดในซีเรีย
รายงานของสำนักข่าวอิตาร์-ทาสส์ของรัสเซียระบุว่า รัฐมนตรีต่างประเทศของซีเรีย วัย 72 ปี ออกมายอมรับเป็นครั้งแรกระหว่างเดินทางเยือนกรุงมอสโกของรัสเซียเพื่อเข้าหารือกับเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย โดย อัล มูอาเลมระบุว่า รัฐบาลของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล อัสซาด พร้อมเจรจากับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเพื่อยุติความขัดแย้งในประเทศที่ดำเนินมาเกือบครบ 2 ปีเต็ม
“เรายินดีและพร้อมคุยกับทุกฝ่ายที่มีจุดประสงค์เช่นเดียวกัน ไม่ว่าฝ่ายที่จะเข้ามาเจรจากับเราจะมีอาวุธอยู่ในมือของพวกเขาหรือไม่ เพราะเราเชื่อว่าการปฏิรูปประเทศจะไม่สามารถเกิดขึ้นได้ผ่านเส้นทางของการนองเลือด แต่ต้องอาศัยการเจรจาพูดคุยกันเท่านั้น” รัฐมนตรีต่างประเทศของซีเรียกล่าว
ความเคลื่อนไหวล่าสุดถือเป็นการเปลี่ยนท่าทีครั้งสำคัญของรัฐบาลบาชาร์ อัล อัสซาด หลังจากที่เคยยืนกรานมาโดยตลอดว่าจะไม่ขอเจรจากับ “พวกผู้ก่อการร้าย” ที่ได้รับความช่วยเหลือจากต่างชาติในการบ่อนทำลายความมั่นคงของซีเรีย
ก่อนหน้านี้ สภาแห่งชาติซีเรียซึ่งเป็นองค์กรที่ฝ่ายต่อต้านรัฐบาลซีเรียจัดตั้งขึ้น เคยออกมายืนยันว่าพร้อมเข้าร่วมการเจรจาสันติภาพเพื่อยุติสงครามกลางเมืองที่นองเลือด แต่มีเงื่อนไขว่าตัวประธานาธิบดีอัสซาด ผู้นำซีเรียเองจะต้องยอมสละอำนาจ และจะต้องไม่กลับเข้ามามีส่วนร่วมใดๆ กับการบริหารปกครองประเทศอีกในอนาคต
ท่าทีล่าสุดของรัฐมนตรีต่างประเทศซีเรียมีขึ้นหลังจากที่เซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศของรัสเซียออกโรงเตือนว่า อาจไม่มีทางเลือกที่ยอมรับได้สำหรับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้งในซีเรีย และยิ่งเกิดการนองเลือดมากขึ้นเท่าใด โอกาสที่ซีเรียจะต้องกลายเป็นประเทศที่ล่มสลายก็จะมีมากยิ่งขึ้นเท่านั้น โดยรัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียยังเตือนว่าการใช้กำลังทางทหาร ไม่ใช่ทางออกของความขัดแย้งในซีเรีย