รอยเตอร์/เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์-เครื่องบินเจ็ตหลายลำของอิสราเอล ทิ้งระเบิดโจมตีรถบรรทุกขนส่งอาวุธใกล้พรมแดนซีเรีย-เลบานอนในวันพุธ (30) คาด เป้าของการโจมตี คือ อาวุธยุทโธปกรณ์ที่กำลังถูกส่งไปให้กลุ่มติดอาวุธ “ฮิซบอลเลาะห์” ในเลบานอน ที่ถือเป็นศัตรูลำดับต้นๆของอิสราเอล และถือเป็นการส่งสัญญาณเตือนไปยังรัฐบาลซีเรียที่ดามัสกัสในการติดอาวุธกลุ่มหัวรุนแรงดังกล่าว
สถานีโทรทัศน์ของทางการซีเรียรายงานโดยกล่าวหาอิสราเอลว่า อยู่เบื้องหลังการทิ้งระเบิดโจมตีศูนย์วิจัยทางทหารแห่งหนึ่งของตนที่เมืองจัมรายา ใกล้กับกรุงดามัสกัสและอยู่ใกล้แนวพรมแดนซีเรียด้านที่ติดกับเลบานอนแม้กลุ่มกบฏที่จับอาวุธทำสงครามกลางเมืองกับรัฐบาลซีเรียจะออกมาอ้างความรับผิดชอบว่าการโจมตีดังกล่าวเป็นฝีมือของพวกตน มิใช่การโจมตีของอิสราเอลแต่อย่างใด
ด้านแหล่งข่าวที่เป็นนักการทูตตะวันตกเผยว่า เป้าหมายของการโจมตี คือ รถบรรทุกคันหนึ่งซึ่งมีอาวุธเต็มคันรถที่กำลังมุ่งหน้าจากซีเรียเข้าไปในเลบานอนเพื่อส่งถึงมือสมาชิกกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ และเป็นที่คาดกันว่าหนึ่งในยุทโธปกรณ์ที่อยู่บนรถบรรทุกคันดังกล่าวมีขีปนาวุธต่อต้านอากาศยานรวมอยู่ด้วย แต่คาดว่าไม่มี “อาวุธเคมี” แม้จะเป็นที่ทราบกันดีว่า เมืองจัมรายาเป็นหนึ่งในสถานที่ซึ่งรัฐบาลซีเรีย ของนายบาชาร์ อัล อัสซาดใช้เป็นสถานที่เก็บอาวุธเคมีจำนวนมาก
รายงานของสถานีโทรทัศน์ของทางการซีเรียเผยว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 2 คนจากการโจมตีครั้งนี้ โดยระบุจุดที่ถูกโจมตีเป็นเพียงศูนย์วิจัยทางวิทยาศาสตร์เท่านั้น
อย่างไรก็ดี ยังคงไม่มีการแสดงท่าทีใดๆอย่างเป็นทางการทั้งจากฝั่งรัฐบาลอิสราเอล หรือจากกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอนแต่อย่างใด มีเพียงรายงานของหน่วยงานด้านความมั่นคงของรัฐบาลเลบานอนที่ออกมายืนยันว่า เหตุโจมตีดังกล่าวไม่ได้เกิดขึ้นในเขตแดนของตน
ก่อนหน้านี้ รองนายกรัฐมนตรีซิลวาน ชาลอมของอิสราเอล เปิดเผยเมื่อวันอาทิตย์ (27) ว่า มีความเป็นไปได้ที่อิสราเอลอาจจำเป็นต้องเปิดฉากโจมตีต่อซีเรียก่อน เพื่อหาทางยับยั้งไม่ให้อาวุธเคมีจำนวนมหาศาลในความควบคุมของรัฐบาลซีเรียตก ไปอยู่ในมือของกลุ่มหัวรุนแรง “ฮิซบอลเลาะห์” แห่งเลบานอน หรือบรรดากลุ่มก่อการร้ายอื่นๆ ที่ได้รับอิทธิพลมาจากเครือข่าย “อัลกออิดะห์”
รองนายกรัฐมนตรีอิสราเอลวัย 54 ยอมรับในวันอาทิตย์(27) ระหว่างให้สัมภาษณ์สถานีวิทยุของกองทัพว่า รัฐบาลอิสราเอลภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู กังวลว่ารัฐบาลซีเรียของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล อัสซาด ที่ต้องเปิดฉากทำสงครามกลางเมืองกับฝ่ายกบฏมานานกว่า 22 เดือน อาจสูญเสียอำนาจในไม่ช้า ซึ่งหากระบอบอัสซาดล่มสลายก็มีความเสี่ยงอย่างยิ่งที่บรรดาอาวุธเคมีจำนวนมากของรัฐบาลซีเรียอาจตกอยู่ ในมือของพวกกลุ่มหัวรุนแรงและกลุ่มก่อการร้าย โดยเฉพาะกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน ที่มีอิหร่านหนุนหลัง