เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - เครือข่ายสถานีโทรทัศน์ “อัล อราบิยา” ของซาอุดีอาระเบียซึ่งมีฐานอยู่ในนครดูไบของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ รายงานเมื่อวันจันทร์ (28) ว่ามารดาของนายบาชาร์ อัล อัสซาด ผู้นำซีเรียได้หลบหนีออกจากแผ่นดินซีเรียแล้ว ถือเป็นการส่งสัญญาณที่ค่อนข้างชัดเจนว่าระบอบการปกครองของผู้นำซีเรียใกล้ล่มสลาย
รายงานของสถานีโทรทัศน์ชื่อดังแห่งโลกอาหรับ ระบุว่า นางอานิซา มักห์ลุฟ มารดาของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล อัสซาด ผู้นำซีเรียได้เดินทางออกนอกประเทศแล้ว โดยมีนครดูไบของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) เป็นจุดหมายปลายทางในการลี้ภัย ถือเป็นการส่งสัญญาณว่าสถานการณ์ในซีเรียขณะนี้กำลังเลวร้ายจนยากควบคุม ขณะที่สงครามกลางเมืองระหว่างฝ่ายกบฏและกองกำลังของอัสซาดซึ่งดำเนินมานานเกือบ 2 ปี ส่งผลให้มีผู้ถูกสังหารไปแล้วมากกว่า 60,000 คน ขณะที่ชาวซีเรียอีกกว่า 600,000 คนต้องลี้ภัยออกนอกประเทศ
รายงานข่าวระบุว่า มารดาวัย 79 ปีของผู้นำซีเรียจะเดินทางไปยังนครดูไบ เพื่อพบกับบุตรสาวของเธอ คือ บุชรา พร้อมกับบรรดาหลานๆ ซึ่งเดินทางไปลี้ภัยที่ดูไบตั้งแต่เดือนกันยายนปีที่แล้ว
ขณะที่โรเบิร์ต ฟอร์ด อดีตเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำกรุงดามัสกัสของซีเรีย ออกมาระบุว่า สมาชิกของครอบครัวอัสซาดกำลังตระหนักถึงชะตากรรมของพวกตน และพวกเขาทราบดีว่าตนเองจะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ในสงครามกลางเมืองและต้องถูกโค่นอำนาจในไม่ช้า
ก่อนหน้านี้หนังสือพิมพ์รายวันชื่อดังอีกฉบับของซาอุดีอาระเบีย คือ “อัล วาตาน” ได้รายงานเมื่อวันที่ 14 มกราคมว่า ประธานาธิบดีบาชาร์ อัล อัสซาดผู้นำซีเรียวัย 47 พร้อมด้วยสมาชิกในครอบครัวได้เดินทางออกจากกรุงดามัสกัส เมืองหลวงของประเทศอย่างลับๆ และหลบไปใช้ชีวิตอยู่บนเรือรบลำหนึ่งที่ลอยลำอยู่นอกชายฝั่งของซีเรียแล้ว โดยมีกลุ่มทหารคนสนิทที่ได้รับเลือกมาเป็นพิเศษรวมถึงกองกำลังทางเรือของรัสเซียคอยอารักขา
โดยหนังสือพิมพ์อัล วาตาน รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่าประธานาธิบดีอัสซาดออกจากกรุงดามัสกัสมาระยะหนึ่งแล้ว ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย หลังจากกองกำลังของฝ่ายกบฏที่ทำสงครามกับทหารรัฐบาลซีเรียมานานกว่า 22 เดือนเริ่มรุกคืบเข้าสู่ย่านชานเมืองหลายแห่งของกรุงดามัสกัส โดยในขณะนี้ผู้นำซีเรียจะใช้วิธีการเดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์จากเรือรบลำดัง กล่าวเข้าไปยังแผ่นดินใหญ่ของซีเรียเป็นครั้งคราวเท่านั้น เพื่อร่วมประชุมสำคัญๆ ที่ทำเนียบประธานาธิบดี และจะรีบเดินทางกลับไปยังเรือรบลำดังกล่าวทันทีเมื่อเสร็จภารกิจโดยจะไม่ยอมค้างคืนในแผ่นดินใหญ่ซีเรียเด็ดขาด
รายงานของสื่อดังแห่งซาอุดีอาระเบียระบุว่า อัสซาดเริ่มไม่มั่นใจในความปลอดภัยของตนและครอบครัว หลังจากที่กองกำลังของฝ่ายกบฏสามารถรุกคืบเข้าประชิดเขตชานเมืองของกรุง ดามัสกัส จนฝ่ายรัฐบาลต้องเปิดฉากระดมโจมตีพื้นที่โดยรอบเมืองหลวงของประเทศอย่างหนัก นับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา หวังขับไล่ฝ่ายกบฏออกจากพื้นที่ดังกล่าวซึ่งเป็น “ที่มั่นสุดท้าย” ของระบอบการปกครองภายใต้การนำของอัสซาด
