เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - รองนายกรัฐมนตรีซิลวาน ชาลอมของอิสราเอล เปิดเผยเมื่อวันอาทิตย์ (27) ว่า มีความเป็นไปได้ที่อิสราเอลอาจจำเป็นต้องเปิดฉากโจมตีต่อซีเรียก่อน เพื่อหาทางยับยั้งไม่ให้อาวุธเคมีจำนวนมหาศาลในความควบคุมของรัฐบาลซีเรียตกไปอยู่ในมือของกลุ่มหัวรุนแรง “ฮิซบอลเลาะห์” แห่งเลบานอน หรือบรรดากลุ่มก่อการร้ายอื่นๆ ที่ได้รับอิทธิพลมาจากเครือข่าย “อัลกออิดะห์”
รองนายกรัฐมนตรีอิสราเอลวัย 54 ปี ยอมรับเมื่อวันอาทิตย์ (27) ระหว่างให้สัมภาษณ์กับสถานีวิทยุของกองทัพว่า รัฐบาลอิสราเอลภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู มีความกังวลว่ารัฐบาลซีเรียภายใต้การนำของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล อัสซาด ที่ต้องเปิดฉากทำสงครามกลางเมืองกับฝ่ายกบฏมานานกว่า 22 เดือน อาจสูญเสียอำนาจในไม่ช้า ซึ่งหากระบอบอัสซาดล่มสลาย ก็มีความเสี่ยงอย่างยิ่งที่บรรดาอาวุธเคมีจำนวนมากของรัฐบาลซีเรียอาจตกอยู่ในมือของพวกกลุ่มหัวรุนแรงและกลุ่มก่อการร้ายต่างๆ โดยเฉพาะกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน ที่มีอิหร่านหนุนหลัง
“เราจะต้องตัดสินใจดำเนินมาตรการที่จำเป็นซึ่งรวมถึงการเป็นฝ่ายเปิดฉากโจมตีต่อซีเรียก่อนเพื่อให้มั่นใจว่าอาวุธเคมีของซีเรียจะไม่ตกไปอยู่ในมือของฝ่ายใดก็ตามที่จะเป็นภัยคุกคามต่อเรา” รองนายกรัฐมนตรีอิสราเอลกล่าว
คำเตือนล่าสุดของรองนายกรัฐมนตรีอิสราเอล มีขึ้นหลังจากที่ทางกองทัพอิสราเอลตัดสินใจเคลื่อนระบบป้องกันขีปนาวุธ “Iron Dome” ของตนไปยังเมืองไฮฟา เมืองสำคัญทางตอนเหนือของประเทศเมื่อวันอาทิตย์ (27) โดยทางกองทัพอ้างว่าเป็นการเคลื่อนย้ายตามปกติ ท่ามกลางกระแสข่าวลือที่ระบุว่าความเคลื่อนไหวของกองทัพอิสราเอลเป็นการส่งสัญญาณว่าอาจเกิดการโจมตีเมืองดังกล่าวโดยพวกฮิซบอลเลาะห์ในเร็วๆ นี้
ด้านยิสราเอล ฮัสซัน สมาชิกรัฐสภาและอดีตรองผู้อำนวยการหน่วยข่าวกรอง “ชิน เบท” ของอิสราเอลเปิดเผยสอดคล้องกับรองนายกรัฐมนตรีชาลอม โดยระบุว่าอิสราเอลกำลังจับตาดูสถานการณ์ในซีเรียอย่างใกล้ชิดเพื่อให้แน่ใจว่าอาวุธเคมีจำนวนมากของซีเรียจะไม่ตกอยู่ในความครอบครองของกลุ่มหัวรุนแรง
ทั้งนี้ มีรายงานว่า บรรดาเจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านความมั่นคงของอิสราเอล ได้นัดหารือเป็นกรณีพิเศษเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เกี่ยวกับสงครามกลางเมืองในซีเรียที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตไปแล้วมากกว่า 60,000 ราย แต่ไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดของการหารือต่อสาธารณชนแต่อย่างใด