รอยเตอร์/เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู แห่งอิสราเอล ตกเป็นข่าวว่าแอบเดินทางไปหารือแบบ “ลับสุดยอด” กับกษัตริย์อับดุลเลาะห์แห่งจอร์แดนในกรุงอัมมาน เพื่อหารือเกี่ยวกับความเสี่ยงที่อาวุธเคมีในคลังแสงของรัฐบาลซีเรีย อาจตกอยู่ในมือของกลุ่มติดอาวุธอิสลามิสต์ทั้งหลาย ภายหลังจากที่ประธานาธิบดีบาชาร์ อัล อัสซาด ผู้นำซีเรียถูกโค่นอำนาจ
สถานีโทรทัศน์ 2 แห่ง รวมถึงเว็บไซต์ข่าวออนไลน์อีกหลายแห่งในอิสราเอลต่างรายงานตรงกันเมื่อวันพุธ (26) โดยอ้างแหล่งข่าวที่เป็นเจ้าหน้าที่ของทางการอิสราเอลที่ยืนยันว่า การเดินทางไปพบกับกษัตริย์อับดุลเลาะห์ของเนทันยาฮูที่เมืองหลวงของจอร์แดนนั้นได้เกิดขึ้นจริง แม้โฆษกรัฐบาลอิสราเอลจะยังคงยืนกรานปฏิเสธข่าวดังกล่าว
รายงานข่าวระบุว่า การพบกันของผู้นำทั้งสองเป็นไปแบบลับสุดยอดโดยหัวข้อหลักของการหารือคือ ความกังวลว่าอาวุธเคมีของรัฐบาลซีเรียอาจตกอยู่ในมือของกลุ่มนักรบมุสลิมหัวรุนแรงต่างๆ โดยเฉพาะพวกฮิซบอลเลาะห์แห่งเลบานอน หากระบอบการปกครองของบาชาร์ อัล อัสซาด ผู้นำซีเรียมีอันต้องล่มสลายไป
ความเคลื่อนไหวล่าสุดส่งผลให้บรรดานักวิเคราะห์ รวมถึงผู้เชี่ยวชาญด้านกิจการตะวันออกกลาง ลงความเห็นว่า อิสราเอลและจอร์แดนซึ่งลงนามในสนธิสัญญาสันติภาพระหว่างกันตั้งแต่เมื่อปี 1994 กำลังพยายามหาทางจัดการกับอาวุธเคมีของซีเรีย หากเกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในกรุงดามัสกัส แทนที่จะปล่อยให้อาวุธร้ายแรงประเภทนี้ตกอยู่ในมือของกลุ่มหัวรุนแรง
อย่างไรก็ดี โมเช ยาลอน รองนายกรัฐมนตรีของอิสราเอลออกมายืนยัน โดยอ้างข้อมูลจากหน่วยข่าวกรองว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่พบหลักฐานใดๆที่ยืนยันได้ว่ารัฐบาลซีเรียได้นำอาวุธเคมีในคลังแสงของตัวเอง ออกมาใช้ในการทำสงครามกับฝ่ายกบฏแล้ว แม้จะมีรายงานของพวกกลุ่มเคลื่อนไหวที่มีจุดยืนต่อต้านรัฐบาลซีเรียว่า พบร่องรอยการใช้อาวุธดังกล่าว