เอเอฟพี - การทดสอบระบบป้องกันขีปนาวุธ “ไอเอิร์น โดม” รุ่นใหม่ของกองทัพอากาศอิสราเอลประสบความสำเร็จอย่างงดงาม กระทรวงกลาโหมอิสราเอลแถลง วานนี้(4)
เอทัด บารัค รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมอิสราเอล แถลงว่า “การทดสอบครั้งนี้นับว่าเป็นความสำเร็จครั้งใหม่ในโครงการเสริมศักยภาพระบบป้องกันขีปนาวุธ ไอเอิร์น โดม”
“รัฐบาลอิสราเอลทุ่มงบประมาณมหาศาลเพื่อสนับสนุนการพัฒนาระบบป้องกันขีปนาวุธหลายรุ่น ซึ่งจะช่วยให้เราสามารถปกป้องดินแดนทั้งหมดไว้ได้ในอีก 2-3 ปีข้างหน้า”
สถานีโทรทัศน์อิสราเอลรายงานว่า ไอเอิร์น โดม เวอร์ชันล่าสุดถูกออกแบบมาเพื่อสกัดกั้นขีปนาวุธพิสัยกลาง เช่น ขีปนาวุธที่ยิงมาจากซีเรียหรือกลุ่มติดอาวุธฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน เป็นต้น
ไอเอิร์น โดม เวอร์ชันแรกถูกติดตั้งใกล้กับเมืองเบียร์เชวาในเขตทะเลทรายเนเกฟ เมื่อเดือนมีนาคมปี 2011 ห่างจากฉนวนกาซาประมาณ 40 กิโลเมตร และสามารถสกัดจรวดได้แล้วกว่า 100 ลูกตั้งแต่นั้นมา
ภาคใต้ของอิสราเอลมักตกเป้าหมายของกลุ่มฮามาสซึ่งมีอิทธิพลอยู่ในฉนวนกาซา ขณะที่รัฐบาลยิวก็ได้ตอบโต้ด้วยปฏิบัติการโจมตีทางอากาศ
ระบบป้องกันขีปนาวุธแต่ละจุดจะติดตั้งอุปกรณ์ตรวจจับเรดาร์และติดตามเส้นทาง, ระบบควบคุมการยิง และฐานยิง 3 ฐานสำหรับขีปนาวุธสกัดกั้น 20 ลูก ซึ่งมีพิสัยยิงไกลระหว่าง 4-70 กิโลเมตร
ผู้เชี่ยวชาญด้านการทหารระบุว่า อิสราเอลต้องมีระบบป้องกันขีปนาวุธถึง 13 จุดเพื่อป้องกันดินแดนทั้งหมด ซึ่งต้องใช้เวลาหลายปีกว่าจะทำสำเร็จ ขณะที่รัฐบาลอิสราเอลประกาศทุ่มงบถึง 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 30,000 ล้านบาท) เพื่อโครงการนี้
สื่อรายงานว่า การยิงขีปนาวุธสกัดกั้นจากไอเอิร์น โดม แต่ละลูกจะมีค่าใช้จ่ายถึง 50,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.53 ล้านบาท)
ระบบป้องกันขีปนาวุธ ไอเอิร์น โดม พัฒนาขึ้นโดยบริษัท ราฟาเอล แอดวานซ์ ดีเฟนซ์ ซิสเต็มส์ ซึ่งเป็นบริษัทผลิตอาวุธเอกชนในเมืองไฮฟา และได้รับทุนสนับสนุนบางส่วนจากสหรัฐฯ