เอเอฟพี - นักวิทยาศาสตร์รัสเซียเผยวันนี้ (18) พบเศษอุกกาบาต ที่ตกลงในเขตเทือกเขาอูราลของแดนหมีขาว ก่อให้เกิดคลื่นกระแทกรุนแรงจนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บมากกว่า 1,200 คน และสร้างความเสียหายให้กับอาคารบ้านเรือนหลายพันหลัง
ชิ้นส่วนวัตถุจากอวกาศขนาดยักษ์ร่วงผ่านเมืองเชเลียบินสค์ ตอนกลางของรัสเซียในวันศุกร์ (15) ที่ผ่านมา ด้วยกำลังเทียบเท่ากับระเบิดนิวเคลียร์ที่ถล่มเมืองฮิโรชิมาของญี่ปุ่นสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ถึง 30 ลูก โดยเกิดการระเบิดเหนือพื้นโลกหลายสิบกิโลเมตร ซึ่งคาดว่าเศษเล็กเศษน้อยได้กระจายตัวไปในหลายพื้นที่ของเขตอุตสาหกรรมดังกล่าว
ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ที่เก็บกู้ซากอุกกาบาตบริเวณทะเลสาบเล็กๆ แห่งหนึ่ง ซึ่งเชื่อว่าน่าจะมีเศษอุกกาบาตตกลงไปบ้าง กลับไม่พบอะไรเลยในการค้นหาเบื้องต้น
อย่างไรก็ตาม นักวิทยาศาสตร์แห่งสถาบันวิทยาศาสตร์รัสเซีย ซึ่งทำการทดลองทางเคมีกับหินที่ผิดไปจากปกติบางส่วนในวันอาทิตย์ (17) ที่ผ่านมา ชี้ว่าวัตถุเหล่านั้นมาจากนอกโลก
“เรายืนยันได้ว่าอนุภาคของวัตถุที่พบโดยคณะเจ้าหน้าที่ของเราบริเวณใกล้ทะเลสาบเชบาร์กูลนั้นมีองค์ประกอบของอุกกาบาตจริงๆ” สำนักข่าวอาร์ไอเอ โนโวสตีรายงานโดยอ้างคำกล่าวของ วิกเตอร์ โกรฮอฟสกี เจ้าหน้าที่ของสถาบันวิทยาศาสตร์รัสเซีย ซึ่งเผยในคืนวันอาทิตย์
นอกจากนี้ โกรฮอฟสกีจากมหาวิทยาลัยอูราลเฟดเดอรัลยังได้โพสต์แถลงต่างหากบนเว็บไซต์ในวันนี้ พร้อมภาพชายคนหนึ่งถือหินที่มีรูพรุนสีดำก้อนเล็กๆ ด้วยนิ้วโป้ง และนิ้วชี้
โกรฮอฟสกียังเสริมว่า หินก้อนนี้มีส่วนประกอบของธาตุเหล็ก คริโซไลต์ และซัลไฟต์ โดยมีปริมาณเหล็กอยู่ราว 10% ซึ่งวัตถุดังกล่าวจะถูกเรียกว่า สะเก็ดดาวเชบาร์กูล (Meteorite Chebarkul)
ทั้งนี้ คลื่นกระแทกที่เกิดจากแรงระเบิดของอุกกาบาตดังกล่าวทำให้หน้าต่างตึกรามบ้านช่องเกือบ 5,000 แห่งแตกกระจาย และยังทำให้ชาวเมือง 40 คน รวมถึงเด็กยังต้องรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลจากการถูกกระจกบาดจนได้รับบาดเจ็บสาหัส
หน่วยฉุกเฉิน และอาสาสมัครกว่า 24,000 ชีวิตทำงานกันอย่างวุ่นวายตลอดสุดสัปดาห์ เพื่อเก็บกวาดกระจกหน้าต่างที่ได้รับความเสียหาย ให้ทันก่อนเวลาโรงเรียนเปิด และคนกลับไปทำงานในวันจันทร์