เปียงยางเล็งทดสอบนุกเพิ่มปีนี้-กดดันวอชิงตันเปิดเจรจาการทูต

รอยเตอร์ - แหล่งข่าวแย้มเกาหลีเหนือแจ้งกับจีนพันธมิตรหนึ่งเดียว พร้อมทดสอบนุกอีก 1-2 รอบในปีนี้ และอาจมีการปล่อยจรวดเป็นของแถม เพื่อบีบให้อเมริกาเปิดการหารือทางการทูต ด้านวอชิงตันปรามเปียงยางเลิกยั่วยุ พร้อมประกาศเดินหน้าปกป้องพันธมิตรในภูมิภาคเอเชีย

แหล่งข่าวที่เข้าถึงเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลเปียงยางและปักกิ่งโดยตรง เปิดเผยว่า ขณะนี้เกาหลีเหนือพร้อมแล้ว และจะมีการทดสอบนิวเคลียร์ครั้งที่ 4 และ 5 รวมทั้งการปล่อยจรวดเร็วๆ นี้ ซึ่งเป็นไปได้ว่าอาจเป็นภายในปีนี้ พร้อมสำทับว่า การทดสอบครั้งที่ 4 อาจใช้ระเบิดทีเอ็นทีหนักถึง 10 กิโลตัน

แหล่งข่าวเสริมว่า การทดสอบจะเกิดขึ้นแน่นอน เว้นแต่วอชิงตันจัดการหารือกับเปียงยาง รวมทั้งยกเลิกความพยายามเปลี่ยนแปลงระบอบของเกาหลีเหนือ

เกาหลีเหนือยังย้ำความปรารถนาที่มีมายาวนานให้สหรัฐฯ ลงนามข้อตกลงสุดท้ายและสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตต่อกัน จากปัจจุบันที่ยังคงถือว่าเกาหลีเหนืออยู่ในสงครามกับอเมริกาและเกาหลีใต้ หลังจากสงครามเกาหลีสิ้นสุดลงด้วยข้อตกลงหยุดยิงในปี 1953

ทั้งนี้ เกาหลีเหนือเพิ่งทดสอบนิวเคลียร์เมื่อต้นสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งจากการประเมินเบื้องต้นระบุว่า ใช้ระเบิดหนัก 6-7 กิโลตัน แม้ว่าผลการประเมินขั้นสุดท้ายเกี่ยวกับปริมาณและวัตถุดิบที่ใช้ทำระเบิดยังต้องรออีกหลายสัปดาห์ก็ตาม

การทดสอบดังกล่าวซึ่งถือเป็นครั้งที่ 3 นับจากปี 2006 ส่งผลให้วอชิงตันและประเทศอื่นๆ ออกมาเตือนว่า เปียงยางอาจถูกคว่ำบาตรรุนแรงขึ้น หลังจากคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เพิ่งเพิ่มมาตรการลงโทษจากกรณีที่เกาหลีเหนือยิงจรวดพิสัยไกลในเดือนธันวาคมที่ผ่านมา

ทว่า เกาหลีเหนือให้เหตุผลสำหรับการทดสอบดังกล่าวว่า เพื่อตอบโต้ท่าทีที่เป็นปฏิปักษ์ของวอชิงตันที่มีต่อการยิงจรวดของตนเมื่อปลายปีที่แล้ว

ที่วอชิงตัน วิกตอเรีย นูแลนด์ โฆษกกระทรวงต่างประเทศ เรียกร้องให้เกาหลีเหนือระงับการยั่วยุที่จะละเมิดพันธะที่มีต่อนานาชาติภายใต้มติ 3 ชุดของคณะมนตรีความมั่นคง ที่ห้ามการทดสอบนิวเคลียร์และขีปนาวุธ

กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ขานรับโดยระบุว่า โครงการนิวเคลียร์และขีปนาวุธของเปียงยางเป็นภัยต่อความมั่นคงของอเมริกา รวมทั้งสันติภาพและความมั่นคงของนานาชาติ พร้อมประกาศว่า สหรัฐฯ ยังคงมุ่งมั่นปกป้องพันธมิตรในภูมิภาคเอเชีย

แม้เปียงยางถูกห้ามไม่ให้พัฒนาเทคโนโลยีขีปนาวุธหรือนิวเคลียร์ภายใต้มาตรการแซงก์ชันของยูเอ็นนับจากการทดสอบนุกในปี 2006 และ 2009 แต่คุน วาย. ซูห์ ศาสตราจารย์วิศวกรรมนิวเคลียร์ มหาวิทยาลัยแห่งชาติโซล กล่าวว่า จากภาพถ่ายดาวเทียมพบว่า เกาหลีเหนือเตรียมพร้อมสถานที่ทดสอบนิวเคลียร์ที่อยู่ห่างจากพรมแดนติดกับจีนราว 100 กิโลเมตรมาตลอดปีที่แล้ว และสถานที่ดังกล่าวอาจพร้อมสำหรับการทดสอบเพิ่มเติมอีกครั้งหลังการทดสอบในสัปดาห์ที่ผ่านมา

ลี วู-ยัง ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยนอร์ธ โคเรียน สตัดดีส์ในโซล ชี้ว่า ความคิดที่ว่า การเพิ่มความเข้มงวดในการลงโทษจะทำให้เกาหลีเหนือหยุดพัฒนาโครงการนิวเคลียร์เป็นความคิดที่ใช้ไม่ได้ในขณะนี้

สอดคล้องกับที่แหล่งข่าวระบุว่า เกาหลีเหนือไม่ได้กลัวว่าจะถูกขยายผลมาตรการลงโทษ เพราะเชื่อว่า การปฏิรูปเกษตรกรรมและเศรษฐกิจจะช่วยเพิ่มผลผลิตในปีนี้ และลดการพึ่งพิงอาหารจากจีน พันธมิตรหนึ่งเดียวที่แม้สนับสนุนมติของยูเอ็นในปี 2006 และ 2009 รวมถึงการประณามการปล่อยจรวดของเกาหลีเหนือเมื่อต้นปี แต่ยังไม่เคยยกเลิกการสนับสนุนทั้งหมดต่อเปียงยาง

แหล่งข่าวคนเดิมสำทับว่า ครั้งนี้จีนจะสนับสนุนมาตรการลงโทษที่ยูเอ็นกำลังหารือ แต่ปฏิเสธที่จะฟันธงว่า จีนจะให้การรับรองมาตรการลงโทษในระดับใด

เขายังบอกว่า มองเห็นช่องทางน้อยมากว่า จะมีการประนีประนอมภายใต้คิม จอง-อึน ผู้นำใหม่วัย 30 ปีของเปียงยางที่เพิ่งขึ้นบริหารประเทศสืบต่อจากคิม จอง-อิล บิดาที่อสัญกรรมเมื่อปลายปี 2011

ในทางกลับกัน แหล่งข่าวผู้นี้เชื่อว่า คิม จอง-อึนจะสืบทอดกลยุทธ์ “การทหารมาก่อน” ของผู้เป็นพ่อที่ผลักดันให้เกาหลีเหนือใกล้ประสบความสำเร็จในการผลิตขีปนาวุธนิวเคลียร์ที่ใช้งานได้ โดยยอมสูญเสียพัฒนาการทางเศรษฐกิจ ที่สำคัญเขายังมีท่าทีแข็งกร้าวกว่าผู้เป็นพ่อ

ความเคลื่อนไหวล่าสุดสอดคล้องกับรายงานที่มีการเผยแพร่ผ่านหนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียนของอังกฤษเมื่อวันศุกร์ (15) ที่ระบุเช่นกันว่า เกาหลีเหนือจะเดินหน้าทดสอบนิวเคลียร์ต่อไปจนกว่าทางรัฐบาลวอชิงตันจะยอมเจรจาและละทิ้งนโยบายที่เปียงยางมองว่าเป็นความพยายามเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองของพวกเขา