เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์-สตีฟ ฟอร์บส์ ประธานและซีอีโอนิตยสารการเงินและธุรกิจ “ฟอร์บส์” เปิดใจให้สัมภาษณ์พิเศษกับสถานีโทรทัศน์ “นิวส์แมกซ์” ของกลุ่มอนุรักษนิยมในสหรัฐฯในวันอังคาร(12)โดยระบุ หากเปรียบเทียบประธานาธิบดีบารัค โอบามา ผู้นำสหรัฐฯเป็นแพทย์ โอบามาก็ถือเป็นแพทย์ที่แย่คนหนึ่งที่รังแต่จะเพิ่มความเจ็บปวดให้กับผู้ป่วย แทนที่จะรักษาอาการป่วยให้หายขาด
ฟอร์บส์ วัย 65 ซึ่งเคยชิงชัยระดับ “ไพรมารี” เพื่อเป็นตัวแทนพรรครีพับลิกัน ในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯปี 1996 และ 2000 ระบุว่า โอบามา ผู้นำสหรัฐฯจากพรรคเดโมแครตล้มเหลวไม่เป็นท่า ในการสร้างงานให้กับชาวอเมริกันและเยียวยาปัญหาทางเศรษฐกิจ ไม่ต่างจาก “หมอที่ไร้ฝีมือ” ที่ดีแต่จะสร้างปัญหาสุขภาพเพิ่มเติมให้กับคนไข้ แทนที่จะรักษาอาการป่วยที่มีอยู่เดิมให้หายขาด
“หากเปรียบโอบามาเป็นหมอ เขาก็ไม่ต่างจากหมอที่รักษาโรคไม่เป็น ดีแต่จะทำให้คนไข้อาการทรุดหนักกว่าเดิม และหากเปรียบประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นรถที่วิ่งบนถนนซูเปอร์ไฮเวย์ รถคันนี้ยังคงวิ่งอยู่ที่ความเร็ว 30 ไมล์ต่อชั่วโมงและดูจะวิ่งช้าลงเรื่อยๆ ในยุคของโอบามา ทั้งที่รถคันนี้ควรจะวิ่งได้ 70-80 ไมล์ต่อชั่วโมง” ฟอร์บส์กล่าว
ฟอร์บส์ยังเผยว่า การเรียกเก็บภาษีที่สูงขึ้นกับบรรดาผู้มีฐานะมั่งคั่งในสหรัฐฯ จะส่งผลเสียอย่างร้ายแรงต่อเศรษฐกิจของประเทศ โดยระบุ โอบามาไม่ควรลืมว่า พวกเศรษฐีทั้งหลาย คือ ผู้มีบทบาทสำคัญยิ่งในการจ้างงานหรือสร้างตำแหน่งงานใหม่แก่ชาวอเมริกัน
ดังนั้น การเก็บภาษีเพิ่มจากคนรวยตามแนวทางที่โอบามาและพรรคเดโมแครตพยายามผลักดันอยู่ จะส่งผลกระทบต่อภาวะการว่างงานในประเทศให้ยิ่งเลวร้ายลงไปอีก พร้อมเตือนว่านโยบายด้านสุขภาพ “โอบามาแคร์” จะก่อให้เกิดกระแสต่อต้านครั้งใหม่ลุกลามไปทั่วสหรัฐฯ เช่นเดียวกับการเคลื่อนไหวของพวก “ที ปาร์ตี” ในช่วงที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ท่าทีล่าสุดของสตีฟ ฟอร์บส์มีขึ้นในช่วงเวลาไล่เลี่ยกับที่ทำเนียบขาวเพิ่งออกมาเปิดเผยว่า รัฐบาลโอบามาสามารถสร้างงานให้กับคนอเมริกันได้กว่า 6.1 ล้านตำแหน่งตลอดระยะเวลา 36 เดือนที่ผ่านมา แม้ตำแหน่งงานส่วนใหญ่ จะเป็นตำแหน่งงานระดับล่างที่มีค่าตอบแทนต่ำก็ตาม