เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - เหตุพายุหิมะครั้งใหญ่พัดถล่มสหรัฐฯ และแคนาดายังคงส่งผลให้ประชาชนในมากกว่า 220,000 หลังคาเรือนทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐฯ ยังไม่มีไฟฟ้าใช้ หลังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังไม่สามารถเปิดการจ่ายกระแสไฟฟ้าได้ตามปกติ โดยพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดจากภาวะไม่มีไฟฟ้าใช้ คือ มลรัฐแมสซาชูเซตต์ หนึ่งในพื้นที่ศูนย์กลางเศรษฐกิจสำคัญ แถบตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองลุงแซม
รายงานข่าวล่าสุดระบุว่า บ้านเรือนของประชาชน รวมถึงร้านค้าต่างๆ มากกว่า 180,000 แห่งในมลรัฐแมสซาชูเซตต์ยังคงไม่มีไฟฟ้าใช้ในช่วงค่ำของวันอาทิตย์ (10) ตามเวลาท้องถิ่นของสหรัฐฯ ลดลงจากเดิมที่มีสูงกว่า 400,000 หลังคาเรือน
ส่วนในมลรัฐใกล้เคียงอย่างโรดไอส์แลนด์ และคอนเนตทิคัต ยังมีบ้านเรือนและร้านค้าที่ยังไม่มีไฟฟ้าใช้กว่า 34,000 หลัง และ 4,700 หลังตามลำดับ ยกเว้นในมลรัฐนิวยอร์กและมหานครนิวยอร์กที่การจ่ายกระแสไฟฟ้ากลับมาสู่ภาวะปกติเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์แล้ว
ขณะที่พายุหิมะซึ่งพัดถล่มกินพื้นที่ตั้งแต่มลรัฐเมน เรื่อยไปจนถึงมลรัฐเพนซิลเวเนียของสหรัฐฯ รวมถึงหลายพื้นที่ของแคนาดานับตั้งแต่คืนวันศุกร์ (8) ที่ผ่านมา ยังคงสร้างผลกระทบเป็นวงกว้างจนการจราจรทั้งทางบกและทางอากาศแทบเป็นอัมพาตจากกองหิมะที่มีความสูงเฉลี่ยเกือบ 1 เมตร
ทั้งนี้ พายุหิมะที่เกิดขึ้นซึ่งถูกเรียกชื่อเป็นทางการว่า “นีโม” ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตทั้งในสหรัฐฯ และแคนาดารวมแล้วอย่างน้อย 15 ราย นับถึงวันอาทิตย์ (10) ที่ผ่านมา ขณะที่พื้นที่ซึ่งถูกพายุพัดถล่มหนักที่สุดจนมีกองหิมะทับถมสูงถึง 40 นิ้ว หรือ 101.6 เซนติเมตร คือ เมืองแฮมเดน มลรัฐคอนเนตทิคัตของสหรัฐฯ