เอเอฟพี - นายกรัฐมนตรีชินโสะ อาเบะ แห่งญึ่ปุ่นในวันศุกร์(8) เรียกร้องปักกิ่งขอโทษและยอมรับแต่โดยดีว่าเรือรบของจีนล็อคเป้าเรดอร์ใส่เรือพิฆาตของญี่ปุ่นในน่านน้ำสากล เหตุเผชิญหน้าล่าสุดที่ซ้ำเติมความตึงเครียดระหว่างสองชาติ
เสียงเรียกร้องของผู้นำแดนปลาดิบมีขึ้นหลังจากปักกิ่ง ปฏิเสธคำกล่าวข้อของโตเกียวโดยสิ้นเชิงต่อเหตุกระทบกระทั่งล่าสุดระหว่างจีนกับญี่ปุ่น ซึ่งมึนตึงกันอยู่ก่อนแล้วจากข้อพิพาทหมู่เกาะในทะเลจีนตะวันออก
"เราปรารถนาเห็นจีนยืดอกยอมรับมัน(การล็อคเป้าเรดาร์) กล่าวคำขอโทษและพยายามป้องกันไม่ให้เหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นอีก" อาเบะให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์บีเอส ฟูจิ "เราสามารถยืนยันได้จากทั้งการมองเห็น ภาพถ่ายและช่องทางอื่นๆ ที่บ่งชี้ถึงทิศทางของเรดาร์ได้เป็นอย่างดี" นายกรัฐมนตรีกล่าว
ก่อนหน้านี้ในช่วงสายวันศุกร์(8) ญี่ปุ่นได้เรียกตัวทูตจีนประจำกรุงโตเกียวเข้าพบเป็นครั้งที่ 3 ในรอบปี เพื่อประท้วงอย่างเป็นทางการ หลังจากปักกิ่งปฏิเสธอย่างเด็ดขาด โดย ชิคาโอะ คาวาอิ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศบอกว่าเอคอัครราชทูต เฉิง ยงหัว ว่าปฏิกิริยาตอบสนองต่อเรื่องดังกล่าวของจีนเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้โดยสิ้นเชิง
โตเกียวอ้างว่าเหตุล็อคเป้าเรดาร์ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 30 มกราคม และนับเป็นครั้งแรกที่กองทัพเรือของทั้งสองชาติเกิดข้อขัดแย้งลักษณะนี้ขึ้น ท่ามกลางข้อพิพาทเกี่ยวกับการกล่าวอ้างกรรมสิทธิหมู่เกาะแห่งหนึ่ง ซึ่งญี่ปุ่นเรียกว่าเซงกากุ ส่วนจีนเรียกว่าเตี้ยวอี๋ว์
ทั้งนี้ ญี่ปุ่น ยังกล่าวหาด้วยว่าเรือรบจีนล็อคเป้าเรดาร์ใส่เฮลิคอปเตอร์ลำหนึ่งของพวกเขาเมื่อวันที่ 19 มกราคมด้วย อย่างไรก็ตามอ้างถึงทั้งสองกรณี กระทรวงกลาโหมของจีนระบุในถ้อยแถลงที่ส่งแฟ็กซ์ถึงเอเอฟพี ระบุว่าในเวลานั้นเรือรบของพวกเขาปฏิบัติภารกิจตามปกติและไม่ได้มีการใช้ระบบล็อคเป้าเรดาร์ใดๆตามที่ถูกกล่าวหาเลย
ถ้อยแถลงของกลาโหมจีนโต้ว่าภารกิจดังกล่าวเป็นเพียงการฝึกเฝ้าระวัง แต่ยังไม่ได้ใช้เรดาร์กำหนดพิกัดยิง ในทางกลับกัน เมื่อเวลาประมาณ 9.00 น. ของวันที่ 30 มกราคม เป็นเรือรบจีนต่างหากที่ถูกตรวจการเคลื่อนไหวโดยเรือพิฆาตของญี่ปุ่น ทั้งที่อยู่ระหว่างการฝึกปฏิบัติประจำวันปกติในน่านน้ำ ดังนั้นข้อกล่าวหาของญี่ปุ่นเหล่านั้น จึงไม่มีมูลความจริง
ต่อมาโฆษกกระทรวงต่างประเทศของจีนก็เสริมว่าคำกล่าวหาของญี่ปุ่นไม่เป็นความจริงโดยสิ้นเชิง "เราหวังว่าญี่ปุ่นจะยกเลิกยุทธศาสตร์ปล่อยข้อมูลเท็จนี้ให้เกิดความเข้าใจผิดนี้"
ในการตอบโต้ คาวาอิ บอกกับเอกอัครราชทูตจีนว่าญี่ปุ่นคาดหวังถึงการชี้แจงแสดงความรับผิดชอบด้วยใจจริงจากปักกิ่งและหวังเห็นจีนใช้มาตรการต่างๆเพื่อป้องกันไม่ให้เหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นซ้ำรอยอีก
อนึ่งแม้อาเบะมีท่าทีแข็งกร้าวกับจีนมาตั้งแต่ช่วงหาเสียงเลือกตั้งกระทั่งได้ชัยชนะและเข้ารับตำแหน่งในเดือนธันวาคม ทว่าในเวลาเดียวกันเขาก็ยังใช้ไม้อ่อนควบคู่ไปด้วย โดยในการสัมภาษณ์เมื่อเร็วๆ นี้ เขาเอ่ยปากว่าจีนและญี่ปุ่นจำเป็นต้องจัดประชุมสุดยอด อีกทั้งยังส่งผู้แทนทางการทูต 2 ชุดเดินทางไปปักกิ่งเมื่อเร็วๆ นี้