อุบัติเหตุเล็กๆ จุดชนวนจลาจลแบ่งแยกชนชั้นในอาเซอร์ไบจาน

คอร์เตซ เจอร์นัล - อุบัติเหตุบนท้องถนนเล็กๆของเศรษฐีคนหนึ่งในเมืองแห่งหนึ่งของอาเซอร์ไบจาน ลุกลามบานปลายสู่จลาจลจุดไฟเผาโรงแรมและรถยนต์ และเหตุปะทะกันระหว่างชาวบ้านกับเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น เหตุการณ์ที่ย้ำถึงความตึงเครียดและข้อบกพร่องของประชาธิปไตยในชาติอดีตสหภาพโซเวียตแห่งนี้

ชาวบ้านที่เดือดดาลหลายร้อยคนในจังหวัดอิสมายิลลี ห่างจากกรุงบากู ไปราวๆ 175 กิโลเมตร ปิดล้อมสำนักงานราชการท้องถิ่นแห่งหนึ่งในวันพฤหัสบดี (24) เรียกร้องให้ผู้ว่าราชการจังหวัดลาออก ตามหลังเหตุจลาจลซึ่งโรงแรมและรถยนต์หลายคันถูกเผาเมื่อค่ำคืนวันพุธ (23) ขณะที่ตำรวจอิสมายิลลีเผยในวันพฤหัสบดี (24) ว่าเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายหลายนายก็ได้รับบาดเจ็บระหว่างพยายามคืนความสงบเรียบร้อยแก่สังคมเมื่อค่ำคืนที่ผ่านมาเช่นกัน

ผู้สื่อข่าวของสำนักข่าวตูราน สื่ออิสระรายงานว่าในการประท้วงวันพฤหัสบดี (24) ตำรวจยิงแก๊สน้ำตาและฉีดน้ำเป็นพักๆ เพื่อสลายฝูงชนแต่ไม่ได้ผล โดยผู้ชุมนุมบางส่วนตอบโต้ด้วยการปาหินเข้าใส่ อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่สามารถเข้าควบคุมตัวผู้ก่อเหตุวุ่นวายได้ราวๆ 10 ถึง 15 คนในช่วงบ่ายวันเดียวกัน

ตำรวจเผยด้วยว่าเมื่อค่ำคืนวันพุธ (23) ฝูงม็อบก่อเหตุจุดไฟเผาโรมแรมแห่งหนึ่งและรถยนต์หลายคันใจกลางเมืองอิสมายิลลี เหตุจลาจลซึ่งมีต้นตอจากอุบัติเหตุเล็กๆ ที่เกี่ยวข้องกับคนรวยกับประชาชนคนธรรมดา

ปัญหาเกิดขึ้นเมื่อเจ้าของโรงแรมท้องถิ่นรายหนึ่งขับรถเสียหลักขึ้นไปบนทางเท้าและชนเข้ากับเสาไฟฟ้า จากนั้นก็มีปากเสียง ทะเลาะวิวาทชกต่อยกับผู้ขับขี่อีกคน แต่เจ้าตัวก็ได้รับการปกป้องจากเจ้าหน้าที่ เมื่อชาวบ้านรู้ข่าวก็พากันยกโขยงนับพันคนไปจู่โจมโรงแรมและจุดไฟเผารถยนต์หลายคันของเจ้าของโรงแรมคู่กรณี เท่านั้นยังไม่พอในเวลาต่อมาฝูงม็อบยังทำร้ายลูกชายของเจ้าหน้าที่เขตคนหนึ่งอีกด้วย

เหตุจลาจลเมื่อค่ำคืนวันพุธ (23) ไม่น่าจะเกิดขึ้นจากแรงจูงใจทางการเมือง แต่มันตอกย้ำถึงความผิดหวังอย่างกว้างขวางต่อการไร้ความเสมอภาคกันอย่างมากระหว่างคนจนกับคนรวยภายในประเทศแห่งนี้

บ่อยครั้งที่การดำเนินธุรกิจใดๆ ในอาเซอร์ไบจาน จำเป็นต้องอาศัยความสนิทชิดเชื้อหรือรู้กันกับเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งเหล่านักเคลื่อนไหวฝ่ายค้านมองว่ามันคือการเปิดทางสำหรับการคอร์รัปชัน