รอยเตอร์ - กองทัพแอลจีเรียตัดสินใจบุกโรงแยกก๊าซในเมือง อิน อามีนาส กลางทะเลทรายสะฮารา เมื่อวานนี้ (19) เพื่อยุติวิกฤตตัวประกันที่ยืดเยื้อมานาน 4 วันเต็ม ขณะที่กลุ่มติดอาวุธซึ่งจับคนงานชาวแอลจีเรียและต่างชาติเป็นตัวประกันหลายร้อยคนถูกสังหารทั้งหมด
ในกลุ่มคนร้าย 32 คนที่เสียชีวิตน่าจะมี อับดุลเราะห์มาน อัล-ไนจีรี ชาวไนจีเรียซึ่งมีความใกล้ชิดกับมอคตาร์ เบลมอคตาร์ ผู้นำกลุ่มติดอาวุธที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์นี้รวมอยู่ด้วย
กระทรวงมหาดไทยแอลจีเรียยังไม่สรุปว่ามีชาวต่างชาติถูกสังหารไปมากน้อยเท่าใด ตั้งแต่โรงแยกก๊าซธรรมชาติแห่งนี้ถูกกลุ่มติดอาวุธอิสลามิสต์บุกโจมตี เมื่อเช้าวันพุธที่ผ่านมา (16)
กระทรวงฯ เปิดเผยว่า จากปฏิบัติการช่วยตัวประกันเมื่อเช้าวานนี้ (19) ทหารสามารถรักษาชีวิตตัวประกันต่างชาติไว้ได้ 107 คน และชาวแอลจีเรียอีก 685 คน แต่ไม่ระบุว่ามีผู้เสียชีวิตเท่าใดแน่
นายกรัฐมนตรีเดวิด คาเมรอน แห่งอังกฤษ แสดงความเป็นห่วงสวัสดิภาพคนงานชาวอังกฤษที่ยังไม่ทราบชะตากรรม ขณะที่คนงานชาวญี่ปุ่นจากบริษัทวิศวกรรม เจจีซี อีก 10 คนก็ยังไม่มีข่าวคราวเช่นเดียวกัน
เจ้าหน้าที่ยืนยันการเสียชีวิตของคนงานชาวอเมริกัน 1 ราย และชาวอังกฤษอีก 1 ราย ส่วนบริษัท สแตทออยล์ เผยว่า คนงานชาวนอร์เวย์อีก 5 คนยังคงสูญหาย
เหตุกลุ่มติดอาวุธบุกยึดโรงแยกก๊าซและจับคนงานหลายร้อยชีวิตเป็นตัวประกันครั้งนี้ ถือเป็นบททดสอบครั้งสำคัญของรัฐบาลแอลจีเรียในด้านความสัมพันธ์กับโลกภายนอก และยังเผยให้เห็นความสุ่มเสี่ยงที่อุตสาหกรรมน้ำมันข้ามชาติในทะเลทรายสะฮารากำลังเผชิญอยู่
ผู้นำตะวันตกหลายชาติต่างแสดงความไม่พอใจที่รัฐบาลแอลจีเรียไม่ปรึกษาหารือก่อนจะมีการส่งทหารบุกโรงแยกก๊าซเพื่อช่วยตัวประกัน ขณะที่แอลจีเรียก็ยืนยันว่า จะไม่เจรจาประนีประนอมกับกลุ่มก่อการร้ายอย่างเด็ดขาด
ประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ เรียกร้องให้แอลจีเรียชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ก็ระบุด้วยว่า “เหตุเศร้าสลดที่เกิดขึ้นทั้งหมดเป็นความผิดของกลุ่มก่อการร้าย”
เจ้าหน้าที่ยังไม่ยืนยันข่าวที่ว่ากลุ่มติดอาวุธได้สังหารตัวประกันบางส่วนระหว่างทหารแอลจีเรียบุกโจมตีครั้งสุดท้าย วานนี้ (19) ขณะที่แหล่งข่าวใกล้ชิดอีกรายเปิดเผยว่า ทหารสามารถช่วยตัวประกันออกมาได้ 16 คน รวมถึงชาวอเมริกัน 2 คนและชาวโปรตุเกสอีก 1 คน
บ็อบ ดัดลีย์ ผู้บริหารบริษัทน้ำมัน บีพี ระบุวานนี้ (19) ว่า ยังมีคนงานบีพีสูญหายไป 18 ราย ส่วนอีก 14 รายที่เหลือปลอดภัยแล้ว